แกะรอยเส้นทางตำรวจกรรโชกทรัพย์

สมุทรปราการ 29 พ.ค. – นายอัจฉริยะ พา น.ส.ลำลัดดา เข้าพบผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อชี้ตัวตำรวจ สภ.บางพลี อีก 3 นาย โดยก่อนหน้านี้ผู้เสียหายชี้ตัวไปแล้ว 7 นาย คดีร่วมกันกรรโชกทรัพย์ 200,000 บาท ซึ่งผู้เสียหายมีเงินเพียง 150,000 บาท ก่อนจะเจรจาต่อรองเท่าที่พร้อมจ่าย เพื่อแลกกับการปล่อยตัว และวันนี้ตำรวจนำตัวผู้เสียหายไปชี้จุดเกิดเหตุ 


ทีมข่าวลงพื้นที่แกะรอยเส้นทางคดีที่ผู้เสียหายอ้างว่าถูกตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เรียกรับเงินจากผู้ต้องหาคดียาเสพติด เพื่อแลกกับการปล่อยตัว ก่อนจะมีคำสั่งย้ายตำรวจ สภ.บางพลี 10 นาย ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ โดยขาดจากตำแหน่งเดิม จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา


คดีนี้เริ่มขึ้นเมื่อช่วง 15.00 น. วันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา น.ส.ลำลัดดา ผู้เสียหายและแฟนหนุ่ม กำลังจะกลับรถเข้าบ้านภายในซอยแห่งหนึ่งใน ต.บางพลีใหญ่ แต่มีตำรวจนอกเครื่องแบบ 10 นาย ทำการปิดล้อม อ้างว่ามีหมายจับ แต่ไม่แสดงหมายจับให้เห็น ทำการตรวจค้นและพบยาเสพติดที่แฟนหนุ่มจำนวน 20 เม็ด จึงจับกุมเพื่อดำเนินคดี ก่อนจะเข้าตรวจค้นภายในบ้านซึ่งอยู่ห่างจากจุดปิดล้อมประมาณ 150 เมตร แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด


หลังจากนั้นตำรวจไปบ้านแฟนหนุ่ม ที่ ต.บางโฉลง ผู้เสียหายระบุว่า ตำรวจเข้าตรวจค้นภายในบ้าน ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายเช่นกัน แต่ได้ยึดรถกระบะ 1 คัน รถจักรยานยนต์ 4 คัน และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง ก่อนจะคุมตัวทั้งสองคนไปสอบสวนที่ สภ.บางพลี 

ผู้เสียหายบอกว่า เงินกว่า 140,000 บาท เป็นการแลกกับการปล่อยตัว ไถ่รถกระบะ 1 คัน และจักรยานยนต์ 1 คัน ยอมรับรู้สึกหวาดกลัวและเป็นห่วงแฟนหนุ่มที่อยู่ในเรือนจำจะไม่ปลอดภัย ทุกวันนี้ยังติดต่อกับแฟนหนุ่มไม่ได้

ล่าสุด น.ส.ลำลัดดา เดินทางไปที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมกับนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เพื่อไปชี้ตัวตำรวจที่เกี่ยวพันเพิ่มอีก 3 นาย โดยก่อนหน้านี้ชี้ตัวไปแล้ว 7 นาย พร้อมยื่นหนังสือเรียกร้องโยกย้ายและตั้งกรรมการสอบวินัยผู้กำกับ สภ.บางพลี และรองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน ปล่อยปละละเลย ผู้ใต้บังคับบัญชากระทำผิดกฎหมายอย่างรุนแรง

สำหรับ น.ส.ลำลัดดา คบหากับแฟนหนุ่มได้เพียง 7 เดือนเท่านั้น ก่อนหน้านี้แฟนหนุ่มเคยต้องโทษคดียาเสพติด และพ้นโทษในเดือนธันวาคม ปี 2561 และกลับมาเป็นเป้าในคดียาเสพติดอีกครั้ง จนถูกดำเนินคดีและอยู่ในเรือนจำจนถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นเสี่ยงร่วมกระทำผิด

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ศึกชิงนายก อบจ.สุรินทร์ “ธัญพร มุ่งเจริญพร” เข้าป้าย

ศึกชิงนายก อบจ.สุรินทร์ ลุ้นกันจนนาทีสุดท้าย “ธัญพร มุ่งเจริญพร” พลิกชนะ “พรชัย มุ่งเจริญพร” แชมป์เก่าแบบขาดลอย คว้าเก้าอี้มาครอง นั่งนายก อบจ.หญิงคนแรกของจังหวัด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ครึ่งวันเช้าคึกคัก

ภาพรวมการใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ครึ่งวันเช้าค่อนข้างคึกคัก มีประชาชนทยอยใช้สิทธิต่อเนื่อง ยังไม่มีรายงานการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

ปชช.ตื่นตัวใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ท่ามกลางสายฝน

ชาวนครศรีธรรมราช ตื่นตัวออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ. ท่ามกลางสายฝน กกต.เผยภาพรวมครึ่งวันเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยังไม่มีรายงานการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง