จ.นนทบุรี 28พ.ค.-ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่ติดตามช่วยเหลือผู้ประกันตนที่เข้าอุทธรณ์ร้องทุกข์ผ่านศูนย์โควิด-19สำนักงานประกันสังคม ยื่นเอกสารแล้ว แต่ยังไม่ได้รับเงินเยียวว่างงานจากเหตุสุดวิสัยโควิด-19
นายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน เดินทางมายังสำนักงานประกันสังคม สำนักงานใหญ่ จ.นนทบุรี ดูการรับเรื่องราวร้องทุกข์จากผู้ประกันตนที่ยังไม่ได้รับเงินเยียวยาตามกำหนด ซึ่งได้ทยอยเดินทางกันมาตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจาก “ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ (โควิด-19) สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน” เปิดรับเรื่อง
นายดวงฤทธิ์ กล่าวว่า ผู้ประกันตนทุกคนที่ยังไม่ได้รับเงินเยียวยาหลังจากมายื่นเรื่องเพื่อตรวจสอบสาเหตุของการไม่ได้รับเงินตามกำหนดแล้ว พบ ว่าผู้ประกันตนแต่ละรายมีหลากหลายสาเหตุ ถือได้ว่าเป็นกรณีพิเศษที่ทำให้ยังไม่ได้รับเงิน เช่น ยังทำงานไม่ถึง 6 เดือน หรือครบ 6 เดือนพอดีในวันใกล้เคียงกับวันยื่นเรื่อง นายจ้างยังไม่นำส่งเงินสำนักงานประกันสังคม ผู้ประกันตนค้างจ่ายค่างวด ความไม่ชัดเจนของการหยุดกิจการ ว่าเป็นการหยุดกิจการด้วยเหตุสุดวิสัยหรือปิดกิจการ เลขบัญชีสั่งจ่ายเงินไม่ตรงกันระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง
นายดวงฤทธิ์ กล่าวด้วยว่า การเปิดศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ที่สำนักงานประกันสังคม จะเป็นการดูแลแบบเบ็ดเสร็จจบที่นี่ เจ้าหน้าที่หากพบว่าผู้ประกันตนรายใดยังมีคุณสมบัติไม่เข้าเกณฑ์จะได้รับเงินเยียวยาก็จะส่งรายชื่อของผู้ประกันตนนั้น เข้าให้ได้รับความช่วยเหลือในโครงการอื่น เช่น “เราไม่ทิ้งกัน” ต่อไป
ขณะที่ล่าสุดมียอดผู้ประกันตน ยื่นขอใช้สิทธิสะสม จำนวน 1,367,584 คน ขอใช้สิทธิใหม่ ณ วันนี้ (28 พ.ค.) จำนวน 23,142 คน วินิจฉัยสั่งจ่ายแล้ว จำนวน 1,265,386 คน คิดเป็นเงินที่จ่ายแล้วทั้งสิ้น จำนวน 7372.904 ล้านบาท
ด้านนายพิชญากร มูลที พนักงานบริษัทขนถ่ายสัมภาระที่สนามบินสุวรรณภูมิซึ่งหยุดกิจการเพราะเหตุสุดวิสัย กล่าวว่าหลังจากได้นำเรื่องร้องเรียนของตนมาเคลียร์ที่ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ พบว่าหมายเลขบัญชีที่ได้ยินเรื่องออนไลน์เพื่อขอรับเงินเยียวยาไม่ตรงกับหมายเลขบัญชีที่ทางบริษัทได้ยื่นเรื่องกับสำนักงานประกันสังคม และครั้งนี้ได้ปรับหมายเลขบัญชีให้ตรงกันแล้วซึ่งคาดว่าน่าจะได้รับเงินภายใน 1สัปดาห์ และบริษัทคาดว่าจะกลับมาเปิดกิจการอีกครั้งในเดือนกรกฎาคม ซึ่งเมื่อได้เงินเยียวยาตรงนี้ ก็มีความหวังในการนำเงินไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันต่อไป .- สำนักข่าวไทย