กรุงเทพฯ 12 พ.ค.-“อรรถวิชช์” ชี้แผนอุ้มการบินไทยต้องชัดเจน ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องกล้าตัดสินใจ เร่งฟื้นฟูกิจการตามพ.ร.บ.ล้มละลาย
นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้าโฟสต์เฟซบุ๊กส่งข้อความถึงบริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) โดยระบุว่า รักการบินไทยและยังจำได้ว่าขากลับากเรียนหนังสือที่สหรัฐอ แค่นั่งในเครื่องทีจีก็รู้สึกอบอุ่นเหมือนได้กลับถึงบ้านแล้ว ทั้งที่เครื่องยังไม่ทันขึ้นจากสนามบินในลอสแองเจอลีสด้วยซ้ำไป ขอใช้สิทธิปกป้องสายการบินแห่งชาติ และประโยชน์ของรัฐไปพร้อม ๆ กัน โดยเห็นว่าการอุ้มการบินไทยต้องมีแผนฟื้นฟูกิจการที่ชัดเจน ผูกพันตามกฎหมายล้มละลาย ส่งสัญญาณเป็นการผ่าตัดใหญ่ให้เจ้าหนี้และคู่ค้าตื่นตัว รวมถึงเป็นการสร้างความชอบธรรมที่จะชะลอการซื้อฝูงบินใหม่ 38 ลำ มูลค่า 1.5 แสนล้านจากบริษัทโบอิ้ง สหรัฐอเมริกา
นายอรรถวิชช์ ระบุว่าการทำแผนฟื้นฟูตามพ.ร.บ.ล้มละลาย จะทำให้เกิดผลทางกฎหมายคือจะมาตัดน้ำตัดไฟไม่ได้ ธุรกิจเดินต่อได้ เจ้าหนี้ต้องมาดูแผนฟื้นฟูร่วมกัน ยอมลดหนี้ ประหนึ่งมาช่วยทำให้ธุรกิจเดินต่อได้ ไม่งั้นอดได้หนี้คืน เพราะถ้าเจ้าหนี้จะไม่ให้ทำธุรกิจต่อหรือไม่อนุมัติแผนฟื้นฟูแล้ว เจ้าหนี้จะต้องไปรอการชำระบัญชี รอขายซากของธุรกิจที่ไม่คุ้มค่า
“รัฐบาล การบินไทย สหภาพ เจ้าหนี้ต่างๆ ทุกฝ่ายต้องตัดสินใจและมาช่วยกันทำแผนฟื้นฟูกิจการอย่างเป็นทางการภายใต้พ.ร.บ.ล้มละลาย ไม่ใช่แค่แผนการปรับปรุงภายในองค์กรแ ต่เรียกชื่อว่าแผนฟื้นฟูกิจการ แบบที่เอาไปผ่าน คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจมานั้นน้ำหนักน้อยไป ไม่พอจะกระตุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง” นายอรรถวิชช์ กล่าว
นายอรรถวิชช์ ระบุว่า การที่รัฐจะช่วย 5 หมื่นล้านบาทครั้งนี้ ได้แค่เอาเครื่องขึ้นกลับไปบินเหมือนก่อนวิกฤติโควิดเท่านั้น ไม่ได้ช่วยให้หลุดพ้นจากสภาพร่อแร่จากเดิม ถ้าไม่มีกลไกทางกฎหมายบีบให้เจ้าหนี้และทุกฝ่ายมาทำแผนฟื้นฟูภายใต้กฎหมายล้มละลายแล้ว ใส่เงินใหม่ลงไปในกิจการอีกแสนล้าน ก็ยังไม่พอกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งการทำแผนฟื้นฟูกิจการภายใต้พ.ร.บ.ล้มละลาย เป็นการส่งสัญญาณถึงสหรัฐอเมริกาด้วยว่าการรับมอบฝูงเครื่องบินโบว์อิ้งนั้นทำไม่ได้ เพราะการบินไทยอาการหนักจริง
“หมดเวลาเกรงใจสหรัฐแล้ว เพราะเมื่อ 25 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา คำสั่งประธานาธิบดีโดนัล ทรัมส์ มีผลเป็นการตัดสิทธิประโยชน์ทางภาษีศุลกากร(จีเอสพี) ทำให้สินค้าของไทยต้องเจอกับกำแพงภาษีนำเข้าของสหรัฐ การที่สหรัฐตัดสินใจกีดกันทางการค้าเพราะขาดดุลทางการค้าอย่างหนักกับไทย ไทยเองก็น่าจะใช้สิทธิ์ไม่รับเครื่องบินโบอิ้งเพราะการบินไทยก็ขาดทุนอย่างหนักหน่วงเช่นเดียวกัน ผมขอให้การบินไทยมีแผนฟื้นฟูกิจการภายใต้พ.ร.บ.ล้มละลายแบบชัดเจน จะทำให้การบินไทยมีอำนาจการต่อรอง ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องตื่นรู้และทำให้เงินใหม่ที่ลงไปคุ้มค่า ต้องใช้ความกล้าผ่าตัดใหญ่ให้รอด อย่าใช้ความกลัวเลี้ยงไข้รอวันตาย” นายอรรถวิชช์ ระบุ.-สำนักข่าวไทย