ประจวบคีรีขันธ์ 10 พ.ค.-ชาวสวนทุเรียนคลองลอยเจอภัยแล้งรุนแรงสุดในรอบ 20 ปี แหล่งน้ำแห้งขอด ส่งผลกระทบสวนทุเรียน 3,000 ไร่ ยืนต้นตายแล้วกว่า 35 % ต้องซื้อน้ำจากรถบรรทุกน้ำ นำมารดต้นทุเรียน
นายสมมิตร คงสังข์ เกษตรกรชาวสวนทุเรียน บ้านคลองลอย หมู่ 8 ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ในพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้งรุนแรงที่สุดในรอบ 20 ปี เนื่องจากฝนทิ้งช่วง ทำให้แหล่งน้ำในอ่างเก็บน้ำคลองลอยแห้งขอด ส่งผลทำให้พืชผลทางการเกษตรในพื้นที่เสียหายอย่างหนัก โดยเฉพาะทุเรียนคลองลอยยืนต้นตายจำนวนมากกว่า 35 % ในพื้นที่ปลูกที่มีการขึ้นทะเบียนกว่า 3,000 ไร่
“คาดว่าปีนี้ผลผลิตทุเรียนโดยภาพรวมจะลดลง ขณะที่เกษตรกรบางรายช่วยเหลือตัวเองด้วยการซื้อน้ำจากรถบรรทุกน้ำ เพื่อนำไปรดต้นทุเรียน บรรเทาผลกระทบในระยะสั้น”นายสมมิตรกล่าว
ด้านนายชนิด ยอดแก้ว สมาชิกสภาเกษตรกร จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ทุเรียนคลองลอยเป็นทุเรียนที่มีคุณภาพดี สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัด ปีที่ผ่านมาได้ผลผลิตมากกว่า 3,000 ตัน โดยมีการส่งออกตลาดต่างประเทศและจำหน่ายในประเทศ สร้างรายได้ให้เกษตรกรเกือบ 1,000 ล้านบาท แต่ปีนี้คาดว่าผลผลิตจะลดลงจากปัญหาภัยแล้งรุนแรง ขณะที่เกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนพยายามช่วยเหลือตัวเองในการหาแหล่งน้ำ แต่ติดขัดเนื่องจากที่ดินอยู่ในเขตป่าสงวนฯ ไม่สามารถขุดสระน้ำได้ ทำให้ทุเรียนคลองลอยอาจต้องปิดตำนาน เพราะยืนต้นตายทั้งหมด จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือ โดยเฉพาะการขุดลอกอ่างเก็บน้ำคลองลอย เพื่อให้กักเก็บน้ำได้อย่างเพียงพอ
นายประมวล พงศ์ถาวราเดช ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นอกจากชาวบ้านคลองลอยจะประสบปัญหาด้านพืชผลการเกษตร ล่าสุดยังขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้ โดยสำนักงานชลประทานที่ 14 เร่งให้การช่วยเหลือ ส่วนการขุดลอกอ่างเก็บน้ำคลองลอย ทราบว่าการขยายพื้นที่ให้สามารถรองรับน้ำได้เพิ่มขึ้นยังติดขัดปัญหา เนื่องจากอ่างเก็บน้ำอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ.-สำนักข่าวไทย