กทม.4 พ.ค.– เวฟ-บุ้ง ใบหยก แจ้งความถูกโกงเงินค่าหน้ากากอนามัย ซึ่งตั้งใจซื้อจำนวน 1,000 ชิ้นไปบริจาค ขณะที่ตรวจสอบพบ มีคนตกเป็นเหยื่อถูกหลอกไปก่อนหน้านี้หลายราย
เมื่อเวลา 14.00 น. นายสาริน บางยี่ขัน หรือเวฟ สาริน อายุ 44 ปี ดารานักแสดง พร้อมด้วย นางสาวสะธี ใบหยก หรือ บุ้ง อายุ 36 ปี ภรรยา นำหลักฐานเอกสารการซื้อขายหน้ากากอนามัย สลิปการโอนเงิน และเบอร์โทรศัพท์ของมิจฉาชีพ เดินทางเข้าพบ พนักงานสอบสวน สน.พญาไท เพื่อแจ้งความเอาผิดกับผู้ใช้บัญชีธนาคาร ชื่อ เฉลิมพล บุตรทา ในข้อหาฉ้อโกง หลังถูกหลอกลวงซื้อ หน้ากากอนามัยแต่ไม่ได้สินค้า
บุ้ง สะธี กล่าวว่า เป็นครั้งแรกในชีวิตที่โดนโกง เริ่มจากคุณพ่อให้หาหน้ากากอนามัยมาบริจาคประมาณ 1,000 ชิ้น โดยเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา ให้ลูกน้องช่วยหา โดยได้เข้าไปในกลุ่มไลน์ซื้อขายหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ มีสมาชิกประมาณ 200 คน โดยต้องทิ้งข้อความไอดีของผู้ซื้อและจำนวนที่ต้องการไว้ จากนั้นมีคนที่มีสินค้าติดต่อแอดไอดีไลน์มาพูดคุย ซึ่งคนร้ายมีลักษณะเหมือนคนขายทั่วไป คือส่งเครดิตมาให้ตรวจดู มีโปรไฟล์ดี หลักฐานที่ให้ตรวจสอบมีความน่าเชื่อถือ ลูกน้องที่เป็นผู้ช่วย จึงสั่งหน้ากากอนามัยไป1,000 ชิ้นราคา 7,000 บาทและโอนเงินมัดจำไป 3,500 บาท โดยสั่งหน้ากากอนามัยไปเวลา 16.00 น. และคนร้ายโทรมาบอกว่าจะให้คนมาส่งเวลา18.00น.เมื่อเวลาผ่านไปยังไม่มีคนมาส่ง จากนั้นคนร้ายโทรมาบอกน้องที่รอรับของว่าอีก 5 นาทีจะมาถึง จนเวลาผ่านไปก็ยังไม่มาส่ง เพราะต้องใช้หน้ากากอนามัยในวันถัดไป ซึ่ง จริงๆ ก็โดนไม่เยอะ แต่ได้ให้ลูกน้องตรวจสอบ และตนได้โพสต์เรื่องนี้ลงในไอจี ก็มีคนเข้ามาให้ข้อมูลกันจำนวนมาก ว่าคนนี้โกงหลายรอบแล้ว จึงปรึกษากับสามี และตัดสินใจเข้าแจ้งความ เพราะต้องการมาตามจับคนนี้ให้คนอื่นด้วย
ด้านนายสาริน กล่าวว่า มิจฉาชีพเยอะ จึงได้โอนเงินไปส่วนหนึ่ง สุดท้าย คือถูกโกง เมื่อสั่งหน้ากากอนามัยไปแล้วไม่ได้รับสินค้า นายเฉลิมพล บุตรทา ตามบัญชีที่โอนเงินไป ได้ใช้เบอร์โทรศัพท์โทรเข้ามาหาลูกน้องที่รอรับของ ทางลูกน้องจึงนำเบอร์โทรศัพท์มาให้ ตนจึงโทรไปสอบถามเมื่อเวลา 20.00 น. ว่าหน้ากากอนามัยที่สั่งไปได้หรือไม่ เขาอ้างว่าหารถมาส่งของไม่ได้ จึงสอบถามไปว่าตอนเย็นบอกว่าอีก 5 นาที ถึงแล้วทำไมตอนนี้ถึงมาบอกว่ารถไม่มาส่งของ จึงคิดในแง่ดีว่าเขาอาจจะติดขัดปัญหาอะไรหรือไม่ จึงให้เวลาภายใน 1 ชั่วโมงให้มาส่งของแล้วเรื่องจะจบ ซึ่งเขาบอกว่า “โอเคครับพี่จะมาส่งให้” จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีก ทั้งนี้ไม่อยากเสียเวลากับเรื่องเหล่านี้ แต่เมื่อคิดไปคิดมา หาก 1 คน โดนโกงคนละ 500 บาท เมื่อโดนหลายคนเงินก็จะเป็นจำนวนมาก เชื่อว่าคนที่โดนกันเล็กๆ น้อยๆ คงไม่อยากเสียเวลา ในช่วงวิกฤตเหล่านี้ เขาคิดว่าถ้าเสียเงิน 500 บาทแล้วจบเลย ถือเป็นค่าโง่และบทเรียนก็จะจบกันไป ยังดีกว่าต้องเสียค่ารถ ค่าเสียเวลา และเสียเงินเพิ่มขึ้นไปอีก ผมเป็นคนสาธารณะเมื่อมาแจ้งความ คิดว่าอาจจะช่วยได้และฝากเตือนกับคนที่สั่งสินค้าออนไลน์ จะได้เพิ่มความระมัดระวัง กรณีของผมมี 2 คนที่ ได้โอนเงินไปให้ คือ นายเฉลิมพล บุตรทา เป็นบัญชีที่ผมได้โอนเงินไป และอีกบัญชีชื่อ นายเฉลิมพร บุตรทา เป็นบัญชีที่หลายๆ คนถูกหลอกให้โอนเงินไป ซึ่งทั้งสอง เป็นพี่น้องฝาแฝดกัน และมีชื่อเตือนภัยในเว็บไซต์ Blacklistssller
ด้านตำรวจ ได้รับเรื่องไว้แล้ว ซึ่งหลังจากนี้จะทำการตรวจสอบว่าบุคคลที่ปรากฏเป็นเจ้าของบัญชีที่รับโอนมีการเปิดบัญชีไว้กี่ที่ รวมถึงตรวจสอบด้วยว่าเป็นผู้ใช้บัญชีเองหรือมีคนอื่นนำไปใช้ และส่งข้อมูลให้กับกระทรวงดีอีเอส ตรวจสอบในส่วนบัญชีไลน์ว่าใครเป็นเจ้าของ เป็นบุคคลคนเดียวกันกับเจ้าของบัญชีหรือไม่ หรือมีใครนำไปใช้ ซึ่งในกรณีนี้เข้าข่ายความผิด 2 ข้อหา ฉ้อโกง และความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ และเมื่อพบตัวผู้กระทำผิดก็จะเชิญมาสอบปากคำ และแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป -สำนักข่าวไทย