ปทุมธานี 15 เม.ย.- กรณีวงจรปิดจับภาพลูกค้าหนุ่มไม่ใส่แมสก์ ไม่พอใจที่ถูกห้ามเข้าร้านสะดวกซื้อ จึงพ่นน้ำลายใส่หน้าพนักงาน เมื่อ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุด หนุ่มคนดังกล่าวเข้าให้ปากคำแล้ว อ้างแค่หยอกล้อ ไม่ได้พ่นจริงๆ พร้อมฝากขอโทษน้องพนักงานและสังคม ตำรวจแจ้งข้อหากระทำให้ของโสโครกเปรอะเปื้อนฯ ปรับเป็นเงิน 1,000 บาท
ภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพ ขณะพนักงานร้านสะดวกซื้อ 7-11 สาขา ปตท.ลำลูกกา คลองสี่ (ลาดสวาย) ยืนอยู่บริเวณหน้าร้าน ซึ่งเป็นจุดคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิ ตามมาตรการของร้านในช่วงภาวะแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ต่อมามีลูกค้าชายคนหนึ่งเดินเข้ามาโดยไม่สวมหน้ากากอนามัย พนักงานจึงไม่ให้เข้าร้าน ชายคนดังกล่าวไม่พอใจจึงพ่นน้ำลายใส่หน้าพนักงาน โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2563 ช่วง 20.00 น.
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่ร้านสะดวกซื้อดังกล่าว พบกับผู้จัดการร้าน ซึ่งไม่สามารถให้ข้อมูลในรายละเอียดได้ โดยสำนักงานใหญ่ฯ จะเป็นผู้ที่ให้ข้อมูลต่างๆ เอง แต่ยืนยันว่ามีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริง และร้านสะดวกซื้อมีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อย่างเข้มงวดอยู่แล้ว โดยพนักงานที่ถูกพ่นน้ำลายเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี
ล่าสุด นายอภิชา อายุ 43 ปี เดินทางเข้าให้ปากคำ และถูกแจ้งข้อกล่าวหา “กระทำให้ของโสโครกเปรอะเปื้อนหรือน่าจะเปรอะเปื้อน ตัวบุคคล หรือทรัพย์” ปรับเป็นเงิน 1,000 บาท ขณะที่ นายอภิชา บอกว่า ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องราวใหญ่โต เหตุการณ์ในวันนั้นตนลืมใส่แมสก์ แล้วเข้าร้าน แต่พนักงานไม่ยอมให้เข้า ผมก็ไม่เข้า แต่เดินเข้าไปหยอกล้อกับพนักงานโดยการเอามือป้องหน้าจะพ่นน้ำลาย แต่ไม่ได้พ่นจริงๆ เป็นการล้อเล่นกันเท่านั้น ยืนยันว่าไม่มีการไปพูดหาเรื่องน้อง หรือจะทำร้ายแต่อย่างใด จึงฝากขอโทษพนักงานและสังคมไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง.-สำนักข่าวไทย