อาเซียนบวกสามร่วมรับมือโควิด-19 ใช้กลไกที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ทำเนียบฯ 14 เม.ย.-นายกรัฐมนตรี เสนอต่อที่ประชุมอาเซียนบวกสาม (จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้) จัดตั้งกองทุนอาเซียนเพื่อรับมือกับสถานการณ์โควิด-19  ใช้กลไกความร่วมมือด้านสาธารณสุข ร่วมกับการใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ในการผลิตนวัตกรรมเพื่อป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดโควิด-19


นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 14.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม( จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้)สมัยพิเศษ ว่าด้วยการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยนายกรัฐมนตรี ร่วมกับผู้นำอาเซียนชื่นชมการดำเนินการต่อสถานการณ์โควิด-19 กับผู้นำประเทศบวกสาม ที่สามารถลดจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตลงอย่างเห็นได้ชัด โดยผู้นำทั้งหมดเห็นพ้องว่า สถานการณ์โควิด-19 ถือเป็นวิกฤตการณ์ของโลกที่ส่งผลอย่างยิ่งต่อทุกภาคส่วนในสังคม 

นายกรัฐมนตรี กล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม เสนอแนวทางสำคัญ 3 แนวทาง 1.จัดตั้งกองทุนอาเซียนเพื่อรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 โดยจัดสรรเงินที่มีอยู่แล้ว จากกองทุนเพื่อการพัฒนาอาเซียน กองทุนความร่วมมือกับจีน ญี่ปุน เกาหลีใต้ และอาเซียนบวกสาม หรือเท่าที่สามารถตกลงกันได้ เพื่อรองรับผลกระทบ ทั้งในระยะสั้น ในการเป็นทุนสำหรับจัดซื้อชุดตรวจ อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ยังขาดแคลน ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และในระยะยาว เพื่อสนับสนุนการศึกษาวิจัยเพื่อคิดค้นวัคซีน และยา


2.ใช้ประโยชน์จากกลไกความร่วมมืออาเซียนบวกสาม ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และเสนอให้ใช้ประโยชน์จากกลไกความร่วมมือด้านสาธารณสุขที่มีอยู่แล้ว ร่วมกับการใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ในการผลิตนวัตกรรมเพื่อป้องกันและรับมือการแพร่ระบาด และความท้าทายอื่น ๆ ในอนาคต  โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียังเสนอให้สำนักเลขาธิการอาเซียนและสำนักเลขาธิการความร่วมมือไตรภาคี (TCS) รวบรวมและแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านนโยบายและมาตรการของแต่ละประเทศ รวมทั้งใช้ประโยชน์จากมาตรการริเริ่มเชียงใหม่พหุภาคี (CMIM) เพื่อบรรเทาผลกระทบและสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเงินในภูมิภาค ในกรณีที่จำเป็น

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า 3.ส่งเสริมทักษะความเข้าใจและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในมิติต่าง ๆ ซึ่งเป็นประเด็นที่ผู้นำอาเซียนบวกสามเห็นพ้องในปีที่ผ่านมา ทั้งการศึกษา การติดต่อสื่อสาร และการค้า การลงทุน พร้อมเร่งใช้เศรษฐกิจดิจิทัล เทคโนโลยีใหม่ ๆ และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจ โดยเฉพาะผู้ประกอบการ MSMEs รวมทั้งส่งเสริมความร่วมมือเพื่อลดผลกระทบจากข่าวปลอม 

นางนฤมล กล่าวว่า ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าความเป็นหุ้นส่วนที่แน่นแฟ้น และการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติ จะช่วยให้เอาชนะวิกฤตนี้ไปได้ โดยไทยพร้อมร่วมมือภายใต้กรอบอาเซียนบวกสามอย่างเต็มที่ ให้ทุกประเทศในภูมิภาคสามารถฟื้นตัวและก้าวไปข้างหน้าได้อย่างเข้มแข็งและมั่นคง เป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของโลกนี้ต่อไป เราจะเอาชนะวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลักพุ่งเหินฟ้าคารถ 6 ล้อ

รอดตายปาฏิหาริย์! วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลัก ก่อนพุ่งเหินฟ้าติดคาบนรถ 6 ล้อ พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือออกมาจากรถ ปลอดภัย

กกต.สั่งเอาผิดอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ

กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายเลือกตั้งไม่ตรงความเป็นจริง โทษหนักทั้งจำคุก-ตัดสิทธิ 5 ปี

ข่าวแนะนำ

“พิธา-ทักษิณ” ช่วยหาเสียงผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่

“พิธา” ลงพื้นที่ตลาดต้นลำไย จ.เชียงใหม่ พบปะพี่น้องประชาชน ด้านพรรคเพื่อไทย “ทักษิณ” ขึ้นเวทีแนะนำ “พิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ สว.ก๊อง” ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่

ไตรภาคีเคาะแล้ว! ค่าจ้างขั้นต่ำ มีผล 1 ม.ค.68

ไตรภาคี เคาะค่าจ้าง 400 บาท ลูกจ้าง 4 จังหวัด 1 อำเภอ “ภูเก็ต-ฉะเชิงเทรา-ชลบุรี-ระยอง-อ.เกาะสมุย” มีผล 1 ม.ค.68 ขึ้นค่าจ้าง 7-55 บาท 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้วันละ 337 บาท

“ภูมิธรรม” สั่งปิดชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก 1 เดือน สกัดอหิวาตกโรค

“ภูมิธรรม” สั่งปิดชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก 1 เดือน สกัดอหิวาตกโรค ไม่ให้ระบาดในไทย พร้อมยกมาตรรักษาสุขภาวะในพื้นที่อย่างเข้มข้น