เชียงใหม่ 9 เม.ย.- การแพร่ระบาดของโควิด-19 ไม่ได้สร้างความยากลำบากให้ผู้คนทั่วโลกเท่านั้น แต่ตอนนี้ช้างไทยทั่วประเทศนับพันเชือกกำลังได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยเฉพาะที่ศูนย์บริบาลช้างที่เชียงใหม่ ซึ่งดูแลช้างเกือบ 90 เชือก ส่วนใหญ่เป็นช้างป่วยและพิการ ต้องแบกรับค่าดูแลเดือนละ 4 ล้านบาท จนต้องเปิดรับบริจาคเพื่อช่วยประคองชีวิตช้างเหล่านี้
เจ้าของช้างใน ต.กื้ดช้าง อ.แม่แตง ที่เชียงใหม่ แหล่งเลี้ยงช้างบ้านที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก รวมหลายร้อยเชือก ต้องขอต้นกล้วยจากพื้นที่อื่นมาไว้เป็นอาหารช้าง ในวันที่ต้องปิดกิจการชั่วราวจากพิษโควิด-19 ไม่มีรายได้ แต่ยังต้องเลี้ยงช้างต่อไป
ไม่ไกลกันนัก ที่ศูนย์บริบาลช้างเอลลิแฟนท์เนเจอร์ปาร์ค มูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม ควาญช้างต้องออกไปตัดหญ้า และเตรียมผักผลไม้ให้เพียงพอกับช้าง 87 เชือก ซึ่งมากกว่าร้อยละ 70 เป็นช้างพิการ ป่วย และช้างชรา จากทั่วประเทศ ที่ถูกส่งมาที่นี่ เหมือนเป็นบ้านหลังสุดท้ายของพวกมัน ในวันที่ไม่มีรายได้แม้แต่บาทเดียว แต่ต้องทำทุกทางให้ช้างกินอิ่ม ช้างเชือกหนึ่งกินน้ำและอาหารเฉลี่ยวันละเกือบ 1,000 บาท ซึ่งช้างแหล่านี้ต้องดูแลเป็นพิเศษ อย่างลักกี้ และมีบุญ ที่ตาบอดทั้งสองข้าง ต้องมีควาญคอยประกบ แม่โด๊ะ ขาพิการ ต้องขนอาหารมาให้กินถึงที่ หรืออีกหลายเชือกที่ป่วย อย่างชาช่า ที่ขาดน้ำ ต้องเติมน้ำเกลือและสารอาหาร วันละ 50-60 ลิตร คิดเป็นเงินต้องใช้วันละนับหมื่นบาทต่อเชือก
พี่เล็ก แสงเดือน ยอมรับว่า วิกฤติจากโควิด-19 ครั้งนี้หนักหนาสาหัสที่สุดในชีวิตการเลี้ยงช้างมาหลายสิบปี ในวันที่ไม่มีรายได้แต่ต้องแบกรับค่าดูแลช้างเดือนละ 4 ล้านบาท เช่นเดียวกับคนเลี้ยงช้างทั่วประเทศราว 3,000 เชือก ที่อยู่ในชะตากรรมเดียวกัน ที่สำคัญเริ่มขาดแคลนอาหารให้ช้าง มีเจ้าของช้างอย่างน้อยกว่า 800 เชือก ที่ร้องขอความช่วยเหลือมายังมูลนิธิของเธอ จนต้องเปิดขอรับบริจาคจากคนรักช้างและผู้ที่มีจิตเมตตา เพื่อประคองชีวิตช้าง ซึ่งแบ่งปันช่วยเหลือช้างไปแล้วกว่า 600 เชือก
หากสถานการณ์ยืดยาวออกไป สิ่งที่พี่เล็กกังวล คือ ช้างมีอาหารไม่พอ เสี่ยงต่อการป่วยและล้ม อีกด้านหนึ่งคนเลี้ยงช้างอาจจะต้องพาช้างเร่ร่อนหากิน ซึ่งอาจจะต้องถึงเวลาที่ภาครัฐจะเข้ามาช่วยดูแลช้างไทย ในวันที่คนเลี้ยงช้างเผชิญวิกฤติโควิด-19.-สำนักข่าวไทย
