ไทยออยล์ มั่นใจแหล่งเงินทุนเพียงพอเดินหน้าโครงการ CFP

กรุงเทพฯ 23 ธ.ค. – ซีอีโอไทยออยล์ แจงเงินลงทุนเพิ่มในโครงการ CFP มาจากเงินสด ออกหุ้นกู้-เงินกู้ยืม มั่นใจมีแหล่งเงินเพียงพอ ยันไม่ต้องเพิ่มทุน พร้อมจ่ายปันผลปกติ ยํ้ากระบวนการทํางานยึดหลักสากล โปร่งใสและเป็นธรรม


นายบัณฑิต ธรรมประจําจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จํากัด (มหาชน) หรือ TOP เปิดเผยว่างบประมาณลงทุนส่วนเพิ่มของโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project หรือ CFP) ประมาณ 63,028 ล้านบาท ที่บริษัทฯจะใช้ในการดําเนินการก่อสร้าง บริษัทฯมีแผนจัดหาเงินทุนประกอบด้วย
1) เงินสดคงเหลือและกระแสเงินสดจากการดําเนินงานของบริษัทฯในปี 2025-2027
2) การออกหุ้นกู้ หรือ การกู้ยืมจากธนาคารพาณิชย์ รวมทั้งพิจารณาหาเครื่องมือทางการเงินใหม่ๆ เช่น การออกตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน รวมถึง การบริหารจัดการทรัพย์สินให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยบริษัทขอยืนยันว่าไม่มีแผนการเพิ่มทุน จากการเพิ่มงบประมาณในการก่อสร้างโครงการในครั้งนี้แต่อย่างใด

“บริษัทฯ มั่นใจว่างบประมาณที่ขอเพิ่มเติมเพียงพอต่อการดําเนินโครงการให้แล้วเสร็จ โดยได้ศึกษาและประเมินร่วมกับที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญด้วยความระมัดระวังว่าสามารถดําเนินโครงการนี้ได้ตามงบประมาณที่วางไว้ บริษัทฯจะบริหารจัดการงบประมาณให้ดีที่สุด อีกทั้งจากการศึกษาและประเมินของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ ถึงแม้ว่าอัตราผลตอบแทนการลงทุนระดับโครงการ ในปัจจุบันจะลดลงจากการประเมินในช่วงการตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย แต่ยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าต้นทุนของกิจการ เมื่อโครงการเสร็จจะทําให้ไทยออยล์มีผลประกอบการทางการเงิน ทั้งในส่วนรายได้ ผลกําไรและฐานะทางการเงินดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขันซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อบริษัทฯและผู้ถือหุ้นในระยะยาว” นายบัณฑิต กล่าว


นายบัณฑิต กล่าวต่อว่า การก่อสร้างโครงการฯที่ต้องเลื่อนออกไป กว่า 3 ปี เป็นผลมาจากการดําเนินงานขั้นตอนที่เหลือเป็นส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเชื่อมต่อระบบของโครงการฯ ที่มีความยุ่งยากและซับซ้อน ดังนั้นก่อนเปิดดําเนินการ จึงต้องทําการทดสอบระบบจนกว่าจะมั่นใจว่าสามารถเปิดดําเนินการได้ตามมาตรฐานที่กําหนดไว้อย่างสมบูรณ์

นอกจากนี้ การก่อสร้างหน่วยกลั่นใหม่ ที่ทําหน้าที่เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ โดยเปลี่ยนนํ้ามันเตาและยางมะตอยให้เป็นนํ้ามันอากาศยานและดีเซลไม่เป็นไปตามแผนที่กําหนด เนื่องจากปัญหาการหยุดงานของกลุ่มบริษัทรับเหมาช่วงอันเนื่องมาจากไม่ได้รับค่าจ้างค้างจ่ายจากผู้รับเหมาหลัก UJV ทําให้การดําเนินโครงการต้องสะดุดจนต้องปรับระยะเวลาดําเนินโครงการออกไป อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ บริษัทฯ ได้พยายามหาทางแก้ไขเพื่อให้การดําเนินงานกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุดเพื่อให้โครงการสามารถเดินหน้าต่อไปให้แล้วเสร็จ คาดว่าบริษัทฯ จะสามารถสรุปเวลาให้แน่ชัดขึ้นในปี 2568

อย่างไรก็ตาม การเพิ่มเงินงบประมาณก่อสร้างโครงการครั้งนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อแผนการจ่ายเงินปันผลของบริษัทฯ อย่างมีนัยสําคัญ เนื่องจากแหล่งเงินทุนเพิ่มเติมส่วนใหญ่มาจากเงินสดคงเหลือ กระแสเงินสดจากการดําเนินงาน และการกู้ยืม ดังนั้นบริษัทฯยังคงพิจารณาจ่ายเงินปันผล ตามนโยบายจ่ายปันผลไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ของกําไรสุทธิของงบการเงิน ภายหลังจากการหักทุนสํารองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กําหนดไว้ในข้อบังคับของบริษัทฯ และตามกฏหมายได้


ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวเป็นโครงการขนาดใหญ่มีมูลค่าสูง บริษัทฯ ต้องพิจารณาด้วยความรอบคอบ ในการตรวจรับงานและการจ่ายเงินโครงการฯ ต้องเป็นไปตามหลักสากลและเงื่อนไขในสัญญา มีการตรวจสอบความถูกต้องทั้งในส่วนปริมาณงานและคุณภาพงานจากผู้ที่เกี่ยวข้องทุกส่วน รวมทั้งจ้างที่ปรึกษาบริหารโครงการที่มีความเชี่ยวชาญในงานก่อสร้างเป็นผู้ประเมินและตรวจรับงาน และจัดตั้งคณะกรรมการกํากับดูแลโครงการฯ ให้การดําเนินการเป็นไปตามหลักสากลในการบริหารโครงการขนาดใหญ่

“ขอยืนยันว่าไทยออยล์ยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาลสําหรับการดําเนินธุรกิจกับผู้มีส่วนได้เสียอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีหน่วยตรวจสอบภายในเพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการทํางานต่างๆ เป็นไปอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม” นายบัณฑิต กล่าว.-516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ศาลตัดสินพิรงรอง

“พิรงรอง” รับกังวลใจ วันนี้ศาลตัดสิน คดีทรูฟ้องหลุดเก้าอี้ กสทช.

“พิรงรอง” ถึงศาล รับกังวลใจ คดีทรูฟ้องหลุดเก้าอี้ กสทช. ปมส่งใบเตือนทีวีดิจิทัลมีโฆษณาแทรก ยืนยันทำหน้าที่อย่างถูกต้อง

ผู้สมัคร นายก อบจ.สมุทรปราการ หอบหลักฐานทุจริตเลือกตั้ง ร้อง ปธ.สภา

ผู้สมัคร นายก อบจ. สมุทรปราการ พรรคประชาชน หอบหลักฐานทุจริตเลือกตั้ง อบจ.ร้องประธานสภา จี้ กกต.สอบให้ความเป็นธรรม ลั่นจะไม่ปล่อยให้เรื่องเงียบ

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

บุกรวบ 2 บิ๊กบอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน

ตำรวจนครบาลบุกรวบ 2 บิ๊กบอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน สร้างเพจปลอมเป็นหน่วยงานตำรวจ และ ปปง. หลอกเหยื่อว่าสามารถติดตามทรัพย์สินที่ถูกหลอกคืนได้ ค้นบ้านพบซิมบ็อกซ์โทรศัพท์ และ QR Code ปลอม จำนวนมาก

ข่าวแนะนำ

เข้าสู่คืนที่ 2 ตัดไฟฟ้าชายแดนเมียนมา ทำลายวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์

เข้าสู่คืนที่ 2 สำหรับการตัดกระแสไฟฟ้า ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต และระงับการส่งน้ำมัน จากฝั่ง อ.แม่สอด จ.ตาก ไปเมืองเมียวดีของเมียนมา เพื่อตัดวงจรกลุ่มจีนเทา พบมีการใช้ไฟฟ้าน้อยลง

คนร้ายลอบวางระเบิดรถกระเช้าภายในเทศบาลตำบลรือเสาะ

คนร้ายลอบวางระเบิดรถกระเช้าจอดในอาคารจอดรถ เทศบาลตำบลรือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส หลังเสร็จพิธีต้อนรับนายกเทศมนตรีคนใหม่ ทำให้ไฟไหม้รถเสียหายหลายคัน

ปล้นร้านสะดวกซื้อ

รวบ 6 เยาวชน ก่อเหตุปล้นร้านสะดวกซื้อปัตตานี

รวบแล้ว 6 โจร ปล้นร้านสะดวกซื้อ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินกว่า 4,000 บาท พบผู้ก่อเหตุทั้งหมด เป็นเยาวชนอายุระหว่าง 14-16 ปี

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล