ลำปาง 4 เม.ย.- จังหวัดลำปางเป็นหนึ่งในไม่กี่จังหวัดที่ไม่พบผู้ป่วยโควิด-19 แต่ล่าสุดเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขต้องไปรับตัวกลุ่มบุคคลเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบยืนยันเพิ่มเติม หลังก่อนหน้านี้บุคคลในบ้านเดียวกันเข้าข่ายเป็นผู้ป่วยโควิด-19
เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลงาว อำเภองาว จังหวัดลำปาง ไปที่ร้านขายของชำแห่งหนึ่งภายในหมู่บ้าน บ้านดง หมู่ที่ 7 ตำบลหลวงใต้ อำเภองาว เพื่อนำบุคคลที่อยู่ในบ้าน (ร้านขายของชำ) อีก 5 คน ซึ่งมีเด็กอายุ 8-9 ปี จำนวน 2 คน เป็นชาย 1 หญิง 1 รวมอยู่ด้วย เพื่อนำไปกักตัวเฝ้าระวังโควิด-19 ที่โรงพยาบาลงาว หลังก่อนหน้านี้ เมื่อวันพฤหัสบดี (2 เมษายน) ที่ผ่านมา หญิงอายุ 59 ปี ซึ่งพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวมีอาการป่วยมีไข้และเดินทางไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลงาว หลังการตรวจอาการ ทางทีมแพทย์ได้ทำการกักตัวไว้ดูอาการ เนื่องจากสงสัยว่าผู้ป่วยมีอาการเข้าข่ายเป็นผู้ป่วยติดโควิด-19 และหลังจากที่ผลการตรวจจากห้องแล็บ ออกมาพบว่า มีผลการตรวจเป็นบวก ทางเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลงาว จึงได้ติดตามมานำบุคคลภายในบ้านรวม 5 คน ไปกักตัวที่ รพ.งาว 14 วัน เพื่อตรวจอาการ และสอบสวนที่มาของเชื้อ เบื้องต้นพบว่าก่อนหน้านี้บุตรสาวของหญิงคนดังกล่าวกลับมาจาก กทม. โดยได้กักตัวแล้วเป็นเวลา 14 วัน และไม่มีการแสดงอาการใดๆ
ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามไปยังนายสาธิต กาแก้ว อายุ 49 ปี ผู้ใหญ่บ้านดง หมู่ที่ 7 ตำบลหลวงใต้ บอกว่า เบื้องต้นทางสาธารณสุขจังหวัดลำปาง ฝ่ายปกครองอำเภองาว ได้เข้ามาที่หมู่บ้านเพื่อสอบสวนเกี่ยวกับเรื่องนี้ และวันนี้จะทำการปิดหมู่บ้าน ห้ามบุคคลเข้า-ออกในหมู่บ้านออก เป็นระยะเวลา 14 วัน และจะทำการพ่นยาฆ่าเชื้อไวรัสทุกตารางนิ้ว โดยในหมู่บ้านมีประชากร 115 หลังคาเรือน 234 คน ส่วนความคืบหน้ารอทางผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางแถลงอย่างเป็นทางการอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย