เนคเทคถ่ายทอดระบบเกษตรอัจฉริยะ

ฉะเชิงเทรา 6 มี.ค.63
–  เนคเทค – สวทช. พัฒนาระบบเกษตรอัจฉริยะ  ส่งต่อสู่การใช้งานจริงในพื้นที่ พร้อมขยายในระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก
(
EEC)


(ขอบคุณภาพจากเนคเทค)


ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
(เนคเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) พัฒนาระบบเกษตรอัจฉริยะ
(
Handy Sense) นำมาทดสอบใช้งานจริงในพื้นที่ทำการเกษตรปลอดภัยสูงหรือผักปลอดภัย
จังหวัดฉะเชิงเทรา ช่วยให้สามารถควบคุมสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมแก่การเจริญเติบโตของพืช
ใช้งานง่าย ทนทาน ราคาถูก ตรวจวัดระบบการเพาะปลูกทางการเกษตรได้อย่างแม่นยำ


(ขอบคุณภาพจากเนคเทค)


ดร.พนิตา
พงษ์ไพบูลย์ รองผู้อำนวยการเนคเทค กล่าวว่า การทำเกษตรกรรมแบบปลอดภัย เป็นการปลูกพืชที่ใช้กระบวนการทางธรรมชาติในการเพาะปลูกทำให้เกิดความปลอดภัยไม่มีสารพิษตกค้าง
ผลผลิตที่ได้จากการเพาะปลูกพืชได้ตรงตามมาตรฐานเป็นที่ต้องการของกลุ่มตลาดสินค้าปลอดภัย
โดยเนคเทคได้นำเทคโนโลยีเซนเซอร์มาช่วยในกระบวนการเพาะปลูก ทำให้เกษตรกรสามารถควบคุมสภาวะแวดล้อมในการปลูกตั้งแต่ต้น
ส่งผลให้ควบคุมคุณภาพและประเมินปริมาณผลผลิต
รวมถึงช่วยเรื่องการเพิ่มคุณค่าของผลิตผลได้ โดยใช้การควบคุมกระบวนการเพาะปลูกเพื่อให้ผลผลิตออกในช่วงที่มีความต้องการ
หรือในช่วงที่ผลผลิตขาดแคลน ซึ่งเทคโนโลยีนวัตกรรมเซนเซอร์
จะวิเคราะห์และช่วยควบคุมปัจจัยด้านสภาพแวดล้อม
ที่มีผลสำคัญต่อการเจริญเติบโตของพืชตั้งแต่การปลูกจนกระทั่งเก็บเกี่ยว



(ขอบคุณภาพจากเนคเทค)

โดยใช้เซนเซอร์ในการรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์สภาพแวดล้อม เช่น เซนเซอร์วัดอุณหภูมิ
ความชื้นในอากาศ ปริมาณแสง ปริมาณการให้น้ำ ค่าความเป็นกรดด่าง ปริมาณออกซิเจน รวมทั้งได้นำข้อมูลทั้งหมดประมวลผล
ใช้กำหนดตัวแปรสำหรับควบคุมสภาวะแวดล้อม ช่วยควบคุมคุณภาพ แลประเมินปริมาณผลผลิตได้อย่างแม่นยำ
ซึ่งทำให้ได้ผลผลิตตรงตามาตรฐานเพิ่มมู,ค่าของสินค้าผลิตภัณฑ์ได้มากยิ่งขึ้น
ในขณะที่ต้นทุนก็ลดลงอีกด้วย นอกจากนี้เทคโนโลยีนี้สามารถช่วยปรับเปลี่ยนกระบวนการต่างๆ
เสริมกระบวนการเรียนรู้ เป็นเครื่องบันทึกข้อมูลที่สามารถนำไปถ่ายทอดสู่ผู้สนใจได้ง่าย
ใช้สำหรับมาศึกษาวางแผนการเพาะปลูกและถ่ายทอดสู่เกษตรกรรุ่นต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ


ดร.พนิตา  กล่าวอีกว่า การควบคุมคุณภาพและปริมาณการผลิตได้อย่างแม่นยำเป็นสิ่งจำเป็นและเป็นประโยชน์ต่อการทำเกษตรกรรม
โดยเฉพาะการทำเกษตรแม่นยำ ที่จะสร้างระบบการเพาะปลูกที่สามาถควบคุมตัวแปรสำคัญที่มีผลต่อการเจริญเติบโตของพืช
รวมถึงการควบคุมสภาวะแวดล้อมทางธรรมชาติ พืชจึงมีการเจริญเติบโตในสภาวะที่เหมาะสมตลอดช่วงอายุ
ตั้งแต่กระบวนการเพาะปลูกจนกระทั่งเก็บเกี่ยว ยกระดับสู่เกษตรกอัจฉริยะที่ใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาและประกอบอาชีพอย่างยั่งยืน
.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชียงใหม่อากาศแปรปรวน เจอลมหนาว-ฝนตก 3 วันติด

ชาวเชียงใหม่เจอลมหนาวและฝนตกต่อเนื่อง 3 วันติด อุตุฯ ย้ำอากาศแปรปรวน เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย ยังมีฝนตกและลมหนาว แนะรักษาสุขภาพ

“อัจฉริยะ” ยื่นสอบปม “ทนายตั้ม” ปูดข่าวผู้บริหารปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ

“อัจฉริยะ” ยื่นหนังสือตรวจสอบข้าราชการช่วยผู้บริหารรัฐวิสาหกิจปลอมเอกสารขยายอายุเกษียณ คาดอาจมีทนายดังเข้าไปเอี่ยว เสนอตำรวจให้สอบพยานรายสำคัญที่เป็นประโยชน์กับ “มาดามอ้อย”

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

“บิ๊กอ้อ” เผย “ทนายตั้ม-ภรรยา” มีพฤติการณ์หนี-ยุ่งเหยิงพยานฯ

“บิ๊กอ้อ” ชี้ตำรวจต้องออกหมายจับ “ทนายตั้ม” เหตุพบพฤติการณ์เตรียมหลบหนีออกนอกประเทศ และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีคดีต่อเนื่อง 3 คดี เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นตอนเช้า-ภาคใต้ฝนหนัก

กรมอุตุฯ เผย “เหนือ-อีสาน” อากาศเย็นในตอนเช้า เตือนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง พร้อมอัปเดตเส้นทางพายุ “หยินซิ่ง”

MOU44

MOU 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง ตอนที่ 1

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องเอ็มโอยู 44 และเส้นแบ่งอาณาเขตทางทะเล หรือเส้นเคลม กลายเป็นปมร้อน ท่ามกลางความกังวลถึงผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และสิทธิเหนือเกาะกูด ติดตามความเห็นและมุมมองจากผู้เกี่ยวข้องในรายงาน “ปมร้อน เอ็มโอยู 44 ผลประโยชน์ชาติ กับ การเมือง”

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” สร้างตัวตนผ่านสื่อ หวังหาผลประโยชน์หรือไม่

หลังจากพนักงานสอบสวนควบคุมตัว “ทนายตั้ม” และภรรยา เข้าเรือนจำไปแล้ว มีคำถามตามมาว่า ทนายคนดังสร้างตัวตนจนโดดเด่นในสังคม เพื่อหาผลประโยชน์จากความน่าเชื่อถือที่สร้างไว้หรือไม่