fbpx

กองทุนบัวหลวงเตรียมออกกองทุนใหม่หนุนสินทรัพย์โต 5%

กรุงเทพฯ 25 ก.พ. – กองทุนบัวหลวงเตรียมออกกองทุนใหม่ปีนี้ 8-9 กองทุนทั้งในและต่างประเทศ หนุนมูลค่าสินทรัพย์โต 5% ขณะที่ราคาทองคำมีโอกาสพุ่งแตะ 1,900 เหรียญต่อออนซ์ พร้อมมองตลาดจีนยังน่าสนใจเข้าไปลงทุน แม้เผชิญวิกฤติไวรัสโควิด-19 


นายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมบัวหลวง จำกัด (กองทุนบัวหลวง) ระบุว่า ขณะนี้ถือเป็นจังหวะเข้าไปลงทุนในหุ้นจีน แม้เผชิญวิกฤติไวรัสโควิด-19 เพราะล่าสุดตลาดเฉินเจิ้นขึ้นไป 6.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว เนื่องจากมีเงินทุนไหลเข้า และมูลค่าหุ้นลงมาต่ำ นอกจากนี้ รัฐบาลจีนได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อพยุงเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ 5.5% 

ขณะที่การลงทุนทองคำ ปัจจัยหนุน คือ ความผันผวนและความกังวลของตลาด รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งขณะนี้ราคาทองคำปรับขึ้นต่อเนื่องสูงสุดในรอบ 7 ปี นอกจากนี้ การที่เงินบาทอ่อนค่ายังทำให้ผลตอบแทนสูงขึ้น โดยมองเป้าหมายที่ 1,900 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ จากปัจจัยหนุนการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบทั่วโลก 


สำหรับการลงทุนปี 2563 กองทุนบัวหลวงประกาศธีมการลงทุน คือ  “เครือข่ายครอบคลุมสร้างความแข็งแกร่ง บรรษัทแข็งแรงสร้างความยั่งยืน” ซึ่งธีมดังกล่าวจะพิจารณาเรื่องความก้าวหน้าและการพัฒนาเทคโนโลยีอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งปัจจัยด้าน ESG ได้แก่ Environment (สิ่งแวดล้อม) Social สังคม และ Governance (ธรรมาภิบาล) ในการเลือกเข้าไปลงทุน เช่น กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวกับอี-คอมเมิร์ซ เฮลท์แคร์ กลุ่มโลจิสติกส์ รวมทั้งดิจิทัลแบงก์กิ้ง เป็นต้น โดยยังมองว่าแม้เศรษฐกิจชะลอ แต่ยังพบว่าการบริโภคผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง ทั้งนี้ ยังใช้เกณฑ์ดังกล่าวพิจารณาการลงทุนในกองทุนต่างประเทศด้วย โดยปี 2563 มีแผนจะเปิดกองทุนใหม่ 8-9 กองทุนทั้งในและต่างประเทศ พร้อมคาดว่าจะทำให้มูลค่าสินทรัพย์เพิ่มขึ้น 5% จากปี 2562 ที่ 910,000 ล้านบาท มาอยู่ที่ 950,000 ล้านบาท .- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้