กาฬสินธุ์ 18 ก.พ.-ชาวบ้านน้อยบึงอร่าม ต.คลองขาม อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ผลิตเต็นท์ผ้าใบอย่างเป็นล่ำเป็นสัน จากที่เคยทำเป็นอาชีพเสริม ช่วงว่างเว้นจากการทำนาในฤดูแล้ง ก็หันมาทำเป็นอาชีพหลักและเป็นธุรกิจส่งออก สร้างรายได้ตลอดปี
นายสัมฤทธิ์ ภูงามตา อดีต ผู้ใหญ่บ้านน้อยบึงอร่าม หมู่ 8 กล่าวว่า บ้านน้อยบึงอร่าม อยู่ในเขตใช้น้ำชลประทานลำปาว ทำนาปีละ 2 ครั้ง คือ นาปีกับนาปรัง มีบางครอบครัวผลิตเต็นท์ผ้าใบส่งจำหน่ายเป็นอาชีพเสริมทั้งเต็นท์นอนและเต็นท์สำหรับงานบุญต่างๆโดยรับผ้าใบจากโรงงานอุตสาหกรรมแถวภาคกลางมาตัดเย็บ
ตัวเองทำเป็นธุรกิจในครัวเรือน มีแรงงาน 4 คน คือตนเอง ภรรยา ลูกสาวและลูกเขยเท่านั้น โดยผลิตเต็นท์ผ้าใบขาย ทั้งชนิดเป็นผืน ราคาผืนละ 2-3 พันบาท และเต็นท์ชุดๆละ 1-2 หมื่นบาท ตามขนาดผืนเล็กผืนใหญ่ ส่งขายลูกค้าทั่วภาคอีสาน
ช่วงนี้ขายไม่ดี จากหลายๆ ปัจจัย จึงปรับรูปแบบการผลิตและเปิดช่องทางขายทางสื่อออนไลน์ และมีการดีไซน์รูปโฉมของเต็นท์ผ้าใบใหม่ เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้าที่ต้องการความแปลกใหม่ ซึ่งล่าสุด ได้รับออร์เดอร์จากผู้ประกอบการสถานที่ท่องเที่ยวภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์ ผลิตเป็นเต็นท์รูปทรงกระโจม จำนวน 30 หลัง หลังละประมาณ 2 หมื่นบาท
ตอนนี้ออกแบบและทดลองทำเป็นแม่แบบแล้ว 1 หลัง มีโครงสร้างมั่นคง ปลอดภัย สามารถพับและเคลื่อนย้ายง่าย มีประตู หน้าต่าง ต่อไฟใช้พัดลมหรือติดตั้งแอร์ก็ได้ และนอนได้หลายคน ซึ่งคาดว่าอนาคตจะได้รับความนิยมจากผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยว ที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวสถานที่ต่างๆในฤดูร้อนนี้ นอกจากนี้เศษผ้าใบที่เหลือจากการตัดเย็บก็เก็บมาสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยนำมาเข้ารูปเย็บเป็นกระเป๋าถือและกระเป๋าสะพายราคาใบละ 20-30 บาท.-สำนักข่าวไทย