นครราชสีมา 9 ก.พ.-นายกฯสั่งกรมสุขภาพจิตดูแลสภาพจิตใจผู้บาดเจ็บ-ญาติเหยื่อกราดยิงที่โคราช และให้นักจิตวิทยาดูแลกำลังพล พร้อมทบทวนเหตุการณ์นี้ที่ทำให้สูญเสียเยอะ ยันไม่ได้ปล่อยเหตุบานปลายเหตุที่ไม่จัดการขั้นเด็ดขาดก่อนหน้านี้เพราะต้องคำนึงถึงความปลอดภัย
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ พลเอกอนุพงษ์เผ่าจินดา รองนายกรัฐมนตรี,นายอนุทินชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินทาง เข้าเยี่ยมอาการผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์จ่าสิบ เอกคลังกราดยิงเจ้าหน้าที่และประชาชนกลางเมืองโคราช และในพื้นที่เทอร์มินอล 21 ที่โรง พยาบาลมหาราช ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สอบถามอาการบาดเจ็บแต่ละรายพร้อมให้กำลังใจ ผู้บาดเจ็บทุกคน โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวชมเชยการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจจนตัวเองได้รับบาดเจ็บว่าทำดีแล้วทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติและได้ปกป้องประชาชนขอให้มีกำลังใจสู้ต่อไปพร้อมกับลูบหัว
นายกรัฐมนตรีเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ได้สั่งการให้กรมสุขภาพจิตเข้ามาดูแลสภาพจิตใจของผู้บาดเจ็บและญาติผู้เสียชีวิตแล้ว ส่วนค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลทั้งหมดรัฐจะเป็นผู้ดูแลและกำลังเร่งรัดเงินเยียวยาเพื่อนำมาช่วยเหลือและเยียวยาจิตใจ เยียวยาความเดือดร้อนให้กับผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ส่วนกรณีผู้เสียชีวิตขอญาติ อย่าพึ่งมารับศพในช่วงนี้ขอให้ผ่านพ้นกระบวนการชันสูตรเสียก่อน อย่างไรก็ตามจากนี้ไปคงต้องทบทวนว่าทำไมเหตุการณ์นี้จึงมีผู้สูญเสียเยอะขนาดนี้ ในฐานะที่ตนเป็นทหารเก่า ยอมรับว่ากำลังพลมีความเครียดทุกนาย ซึ่งไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าเป็นปัญหาส่วนตัวหรือปัญหาเกี่ยวกับงานแต่หลังจากนี้คงต้องให้นักจิตวิทยาเข้าไปดูแลสภาพจิตใจกำลังพลมากขึ้น สำหรับเหตุการณ์ในลักษณะนี้ไม่ควรเกิด ปัญหาส่วนตัวควรไปจัดการกันเอง ไม่สมควรมาก่อเหตุกับประชาชนคนอื่นๆ ที่ไม่รู้เรื่อง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าถึงขั้นต้องทบทวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ดูแลคลังอาวุธหรือไม่ นายกรัฐมนตรีระบุว่า ก็ต้องว่ากันไปเป็นรายบุคคล แต่เหตุการณ์นี้ จะโทษเจ้าหน้าที่ไม่ได้ เพราะคนร้ายได้วางแผนเป็นอย่างดี การก่อเหตุมีขั้นมีตอนชัดเจนและได้ใช้อาวุธยิงเจ้าหน้าที่คุมคลังอาวุธก่อนเอาอาวุธออกไปกราดยิงประชาชน
นายกรัฐมนตรียังกล่าวอีกว่า หลายคนต่อว่าเจ้าหน้าที่และตนปล่อยปละละเลยให้เหตุการณ์บานปลายจนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ซึ่งขอยืนยันว่าไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดปล่อยปละละเลยหรือต้องการให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ แต่เหตุที่ยังไม่สามารถจัดการขั้นเด็ดขาดได้ก่อนหน้านี้เพราะต้องคำนึงถึงความปลอดภัย ของประชาชนที่ยังติดค้างอยู่ภายในห้าง หากลงมือในขณะนั้นย่อมเกิดการสูญเสียมากกว่าตอนนี้แน่นอน.-สำนักข่าวไทย