“อสมท” ปรับธุรกิจปี 2563 พร้อมมุ่งสู่ธุรกิจ “Trusted Contents & Data”


อสมท 9 ม.ค.- อสมท ประกาศปี 2563 เป็นปีแห่งแผนการพัฒนาองค์กรจากเดิมอาศัยธุรกิจมีเดียโทรทัศน์และวิทยุ ไปสู่การเน้นวางพื้นฐานเพื่ออนาคต และเพิ่มธุรกิจใหม่ๆ ที่ไม่อาศัยโฆษณาทางโทรทัศน์เพียงอย่างเดียว เนื่องจากกระแสเงินในตลาดมีเดียเดิมเริ่มทรงตัว โดยลูกค้าและผู้ชมหันไปให้ความสนใจกับ Platform และรูปแบบ Contents ใหม่ๆ มากขึ้น 




นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าในปี 2563 อสมท ได้ประกาศเดินหน้าปรับธุรกิจใหม่ โดยเพิ่มหน่วยธุรกิจอีก 2 ส่วน คือ 



1.สำนักธุรกิจดิจิทัล นำ Contentใน Platform เดิม มาพัฒนาสู่ Platform ใหม่ ประกอบด้วย Content ข่าว และข่าวบันเทิง Content เสียงจากวิทยุ 53 สถานี เพื่อขยายไปสู่ Podcast และ Radio Online

 

2.สำนักดิจิทัลแพลตฟอร์ม เน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มกับ Digital Platform ที่มีโอกาสสร้างธุรกิจใหม่ๆ นอกเหนือจากธุรกิจมีเดียโทรทัศน์ โดยเปิดโอกาสเจรจากับ Partner ไทยและต่างประเทศ 


นอกจากนี้ ได้มีการจัดตั้งฝ่ายงานเล็กๆ เป็นกลุ่มทำงานแบบ Business Lab ชื่อ “ฝ่ายพัฒนาโครงการใหม่” (Growth project) เป็นคณะทำงาน Fast Track นวัตกรรมความคิดสร้างสรรค์ที่วิเคราะห์ธุรกิจใหม่ๆ ที่ไม่เกี่ยวกับธุรกิจเดิม เพื่อสร้างให้ธุรกิจดังกล่าวสามารถดำเนินการได้ด้วยตัวเองในอนาคต การดำเนินการดังกล่าว เป็นการต่อยอดทั้งจากการผลิต Content ข่าวและอื่นๆ ที่มีอยู่แล้วเพื่อมุ่งสู่ธุรกิจ Data และ Information ที่มีรากฐานมาจาก Content ที่น่าเชื่อถือ และการหาพันธมิตรใหม่ๆ ที่เป็น Non broadcast อีกด้วย 




นายเขมทัตต์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับสถานการณ์ของอุตสาหกรรมสื่อในปัจจุบัน โดยเฉพาะสื่อดั้งเดิม เช่น สื่อหนังสือพิมพ์และสื่อโทรทัศน์มีอัตราการเติบโตของรายได้ที่ลดน้อยซึ่งเป็นผลมาจาก Disruptive Technology และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาใช้เทคโนโลยีในการรับชมข่าวสารผ่านอุปกรณ์รับชมแบบใหม่ผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น เทคโนโลยี 5G, และ Super WIFI ส่งผลให้เม็ดเงินโฆษณาในสื่อดั้งเดิมลดลงโดยเฉพาะสื่อโทรทัศน์ ในส่วนรายการต่างๆ ของ อสมท ก็พบเช่นกันว่า ผู้บริโภคหันมาใช้ช่องทางการรับชมข้อมูล ข่าวสารออนไลน์มากขึ้น อาทิ รายการชัวร์ก่อนแชร์ ของสำนักข่าวไทย พบว่าระหว่างปี 2561-2562 มีผู้ติดตามรายการผ่านสื่อสังคมออนไลน์รวมมากกว่า 3 แสนราย นำเสนอข้อมูลในรูปแบบวิดีโอแล้วกว่า 1,300 ชิ้น รวมทั้งยังมีการร่วมบรรยาย อบรม และให้ความรู้เกี่ยวกับความรู้เท่าทันสื่อเพื่อต้านกระแสข่าวปลอม ทั้งในไทยและต่างประเทศ กว่า 70 ครั้ง โดยในปี 2563 ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์จะมีการขยายงานด้านแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อการตรวจสอบข้อเท็จจริงมากยิ่งขึ้น, เฟซบุ๊ก MCOT Digital ในช่วงปี 2561 – 2562 มีผู้ติดตามเพิ่มขึ้น 35,000 ไลค์ ขณะที่เฟซบุ๊กของสำนักข่าวไทย มียอดของผู้ติดตามเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกปี โดยในช่วงปี 2561-2562 มีผู้ติดตามเฟซบุ๊กของสำนักข่าวไทยเพิ่มขึ้น 495,603 คน 


ดังนั้น การวางรากฐานพัฒนาธุรกิจให้สอดรับความต้องการในตลาดมากขึ้น จะช่วยลดความเสี่ยงด้านการแข่งขันของอุตสาหกรรมสื่อที่ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น โดย อสมท มีนโยบายขับเคลื่อนองค์กรให้เป็น “Trusted Content & Platform เน้นการสร้าง Content และ Platform ที่มีประโยชน์ เชื่อถือได้ ให้เป็นแหล่งอ้างอิงความถูกต้อง ตลอดจนรวบรวมข้อมูล Content Database ที่ถูกต้องเพื่อนำไปต่อยอดทางธุรกิจ โดยภาพรวมของธุรกิจสื่อในปัจจุบันนั้น การที่ได้ข้อมูล Consumer มากที่สุด ถือเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ทางธุรกิจมากที่สุด กล่าวคือ ธุรกิจสื่อมวลชนเริ่มนำ Big Data เข้ามาใช้เพื่อค้นหาความต้องการของตนเองและอยากรู้ความเคลื่อนไหวของบุคคลอื่นๆ ซึ่งเป็นการจับกลุ่มเป้าหมายของผู้บริโภคที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งจะขยายงานด้าน Creative Content ให้แข็งแรง สอดคล้องกับแพลตฟอร์มใหม่ๆ เช่น WHAM ซึ่งล่าสุด เพิ่มพันธมิตรใหม่ๆ เช่น Mono Music ร่วมดำเนินธุรกิจด้วย พร้อมกันนี้จะมีการพัฒนาบุคลากรอย่างจริงจังทั้งการ Re-skill และเพิ่มทักษะ Multiskill ให้พนักงานมากขึ้นด้วย

“ก้าวต่อไปของ บมจ.อสมท จะไม่ได้เป็นเพียงธุรกิจโทรทัศน์หรือวิทยุ อสมท จะเดินหน้าสร้างรายได้จากธุรกิจ Digital และธุรกิจใหม่ ซึ่งประกอบด้วยรายได้จาก Website และ Social Media, รายได้จากการขาย Content และรับจ้างผลิตรายการ ทั้งในและต่างประเทศ, รายได้จากธุรกิจ Platform ใหม่ๆ เช่น WHAM และ Podcast, เพิ่มกลยุทธ์จาก MCOT Academy ที่เน้นพัฒนาหลักสูตรสำหรับการพัฒนาการสื่อสารด้านวิชาชีพ, หลักสูตร Media Training และ Brand สำหรับผู้บริหารระดับสูงเพื่อกระจายความเสี่ยงจากธุรกิจดั้งเดิม โดยเชื่อว่าหากสามารถดำเนินการได้ตามแผนธุรกิจที่วางไว้ รายได้เฉลี่ยของ บมจ.อสมท ตั้งแต่ปี 2563 -2567 จะเพิ่มขึ้น” นายเขมทัตต์กล่าว


นายเขมทัตต์ กล่าวถึง ธุรกิจโทรทัศน์ อสมท ในปี 2563 ว่า ยังคงมีนโยบายสร้างสรรค์ Content ที่น่าสนใจ และบริหารค่าใช่จ่ายในการดำเนินการ โดยจะลดการผลิตรายการสดที่ผลิตเองส่วนหนึ่ง เพื่อควบคุมต้นทุนในฟรีทีวี และเน้นให้ทีมข่าวหันไปเปิดตลาด Online มากขึ้น รวมทั้งร่วมผลิตรายการกับพันธมิตรมากขึ้น โดยในปี 2563 ช่อง 9 MCOT HD หมายเลข 30 จะยังคงเน้นความแข็งแกร่งด้านพันธมิตรผู้ผลิตรายการสารคดีวาไรตี้ระดับโลกจาก Discovery อาทิ รายการกลุ่มวิทยาศาสตร์ การทดลองเทคโนโลยีสุดล้ำ ที่ดูสนุก เร้าใจ และเข้าใจง่าย กลุ่มนิเวศวิทยาและธรรมชาติ ในรูปแบบสารคดีสัตว์ที่คนไทยชื่นชอบจาก NHK ประเทศญี่ปุ่น ซีรีส์จาก BBC First ที่ได้รับความนิยมสูง ซีรีส์ดังจากประเทศจีนอย่าง The Lost Swordship (เซียนกระบี่เหนือยุทธภพ) และภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดระดับโลกจาก Sony Pictures มาให้ชมทุกสัปดาห์  




ในส่วนของรายการมวยไทยระดับพรีเมียม แม็กซ์ มวยไทย สปอร์ต เอ็นเตอร์เทนเมนต์ เพิ่มความสนุกกับไฮไลต์ Max Muay Thai อีก 1 วันในวันเสาร์ เพื่อให้ได้ชมกันอย่างต่อเนื่องเพิ่มขึ้นถึง 6 วัน จากเดิมมีเพียง 5 วัน อีกทั้งจะมีการถ่ายทอดสดรายการกีฬาระดับโลกเป็นช่วงๆ เช่น ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์  HONDA LPGA Thailand รายการแข่งขันกอล์ฟหญิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ยังคงมีให้ชมต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 รวมทั้งการปรับรายการข่าวเศรษฐกิจและต่างประเทศระดับโลกที่น่าสนใจอีก 1–2 รายการ 


อีกหนึ่งยุทธศาสตร์ที่สำคัญในปี 2563 นี้ คือการทำ Co–Production กับพันธมิตรผู้ผลิตรายการระดับนานาชาติ เป็นการร่วมกันผลิตระหว่างช่อง 9 MCOT HD หมายเลข 30 กับ Japan International Broadcasting Inc. (JIB) ประเทศญี่ปุ่น กับรายการท่องเที่ยวแนวใหม่ของสองวัย, ความร่วมมือกับ China Media Group และ CCTV ประเทศจีน รวมทั้งการลงทุนร่วมผลิตกับ Netflix ซึ่งเป็นการสร้าง Content รายการคุณภาพที่มีความน่าสนใจมากขึ้นอีกด้วย สำหรับด้านวิทยุ จะเน้นการนำ Content ที่มีอยู่ไปวางใน Platform ใหม่ๆ ทั้งวิทยุ Online, Podcast, Website และ Application ต่างๆ โดยจะบูรณาการให้เป็น Platform เดียว เพื่อสะดวกกับกลุ่มเป้าหมายในการค้นหาและเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร