กทม. 1 ธ.ค.- ตร.เตรียมตำรวจ แพทย์ พยาบาล และเฮลิคอปเตอร์ หนุนดีเอสไอ ค้นจับกุมพระธัมชโย หลังขีด10 ธ.ค.มอบตัวคดีสหกรณ์ยูเนี่ยนฯ ส่วนคดีรุกป่าที่โคราชและเลยครบกำหนดเส้นตายวันนี้(2ธ.ค.) หากไม่มาจะแจ้งเอาผิด รก.เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย
พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพรหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า หากภายในวันนี้ (2 ธ.ค. 59) พระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ยังไม่เข้ามอบตัวตามหมายจับศาลจังหวัดสีคิ้ว คดีบุกรุกป่าสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรมเวิล์ดพีซ วัลเลย์ เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมาและออกหลักฐาน นส.3 ก อันเป็นเท็จ รุกล้ำเข้าไปในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าภูเปือย ป่าภูขี้เถ้าและป่าภูเรือ จังหวัดเลย พนักงานสอบสวน จะดำเนินคดีกับพระราชภาวนาจารย์ หรือ พระทัตตชีโว รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ฐานให้ที่พักพิงผู้ต้องหาตามหมายจับ ซึ่งเป็นคนละส่วนกับที่สำนักงานพระพุทธศาสนา ประสานให้พระธัมมชโย เข้ามอบตัวในวันที่ 10 ธันวาคมนี้ กรณีนั้นเป็นคดีคดีร่วมกันฟอกเงิน และรับของโจร จากสหกรณ์เครดิตยูเนียน คลองจั่น จำกัด ที่ดีเอสไอรับผิดชอบ ส่วนตัวเชื่อมั่นใน 3 เดือน ตอบสังคมได้ว่า พระธัมมชโย ยังอยู่ภายในวัดหรือไม่ เพราะยังไม่มีหลักฐานเดินทางออกนอกประเทศ ผ่านทางสำนักงานตำรวจคนเข้าเมือง หากพระธัมมชโย มอบตัว พนักงานสอบสวนจะพิจารณาเรื่องให้ประกันตัว หากไม่ได้ประกันและพระผู้ปกครองไม่รับไปควบคุม ก็จะต้องสึกขาดจากความเป็นพระ ตามพระราชบัญญัติสงฆ์ พ.ศ.2505 แต่หากสืบทราบว่า พระธัมมชโย ไม่อยู่ในวัดพระธรรมกาย ก็จะสรุปสำนวนคดีส่งอัยการ ให้มีความเห็นทางคดีได้ทันที รวมทั้ง ดำเนินคดีกับนายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์ วัดพระธรรมกาย ฐานนำข้อมูลเท็จ เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ กรณีให้สัมภาษณ์ในทำนองยืนยันว่า พระธัมมชโย อยู่ภายในวัด ส่วนการสืบสวนสอบสวน ขณะนี้ ยังไม่พบมีการนำเงินที่เกี่ยวข้องกับสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น ไปใช้ในการทำผิดบุกรุกป่า ซึ่ง ป.ป.ง.ได้อายัดทรัพย์ไว้ทั้งหมดแล้ว
พลตำรวจเอกศรีวราห์ เพิ่มเติมว่า ได้รับการประสานจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ขอสนับสนุนกำลังพล 6-7 กองร้อย รวมถึงแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สื่อสาร สุนัขตำรวจ พร้อมเฮลิคอปเตอร์ ในการดำเนินการกับพระธัมมชโย ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ตร.ได้จัดเตรียมตามที่ประสานขอ แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะเป็นแผนของดีเอสไอ ตำรวจเป็นเพียงผู้สนับสนุน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความวุ่นวาย และเชื่อว่า ไม่มีการซ่องสุมอาวุธภายในวัด เพราะไม่ใช่การชุมนุมทางการเมือง หรืออาชญากรรมร้ายแรง.-สำนักข่าวไทย