ภูมิภาค 19 ธ.ค.-เพจอีสานบ้านเฮาเผยภาพ “สมคิด พุ่มพวง” ฆาตกรต่อเนื่อง 6 ศพ หลังพ้นโทษเมื่อเดือน พ.ค.62 ตระเวนขอเงินกลับบ้าน ตามสำนักงานพัฒนาความมั่นคงของมนุษย์หลายแห่ง อ้างเพิ่งพ้นโทษ ไม่มีงานทำ
นอกจากที่จังหวัดร้อยเอ็ดแล้ว นายสมคิด พุ่มพวง ยังตระเวนไปสำนักงานพัฒนาสังคมฯ อีกหลายจังหวัด เพื่อขอเงินเดินทางกลับภูมิลำเนา โดยเพจ “อีสานบ้านเฮา” ได้นำภาพนายสมคิด พุ่มพวง ไปขอรับค่ารถกลับบ้านจากเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในสถานที่แตกต่างกัน โดยเพจได้เขียนว่า “ปีงบประมาณ 2562 นายสมคิด พุ่มพวง ไปขอเงินเดินทางกลับภูมิลำเนา 5 ที่ คือ ร้อยเอ็ด อุดรธานี สกลนคร ขอนแก่น บึงกาฬ ล่าสุดเดือนที่แล้วขอจาก พม.หนองคาย อนึ่ง เคยมอบเงินค่ากลับภูมิลำเนาให้นายสมคิด พุ่มพวง ช่วงเดือนมิถุนายน 2562 #มันหาเงินเป็น จริง จริง ครับ เครดิต เพลย์บอย กลับใจ”
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อมูลที่สำนักงานพัฒนาสังคมฯ อุดรธานี และได้รับแจ้งว่าเจ้าหน้าที่ที่สัมภาษณ์และช่วยเหลือนายสมคิดในขณะนั้นได้ย้ายไปรับราชการที่อื่นแล้ว โดยวันนี้ทางนิติกรพัฒนาสังคมฯ อุดรธานี ได้ชี้แจงเบื้องต้นว่าสำนักงานพัฒนาสังคมฯ มีหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน ตกทุกข์ได้ยาก โดยเมื่อวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา นายสมคิดได้มาขอค่ารถกลับภูมิลำเนา เจ้าหน้าที่ผู้ชายในขณะนั้นได้สัมภาษณ์ สอบประวัติ ก่อนให้ความช่วยเหลือและถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน โดยนายสมคิดแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่ามาหางานทำที่อุดรธานี แต่ไม่มีงานทำ จึงอยากกลับบ้านที่จังหวัดตรัง เมื่อสอบประวัติเสร็จ เจ้าหน้าที่ได้มอบเงินค่ารถไฟ ค่าโดยสารรถยนต์ และค่าอาหาร รวม 625 บาท โดยไม่เคยทราบมาก่อนว่านายสมคิดตระเวนไปขอเงินในอีก 5 จังหวัด และไม่เคยรู้มาก่อนว่าเป็นฆาตกรต่อเนื่อง
เช่นเดียวกับที่สำนักงานพัฒนาสังคมฯ บึงกาฬ เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่านายสมคิดได้เดินทางมาขอความช่วยเหลือกลับภูมิลำเนาเดิมเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยนายสมคิดอ้างว่าเพิ่งถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำ และไม่มีญาติมารับ จึงไปอาศัยอยู่กับเพื่อนที่เพิ่งออกจากเรือนจำเช่นกัน แต่สุดท้ายเพื่อนคนนั้นถูกจับอีกรอบ เพราะเสพสารเสพติด ตำรวจจึงมาส่งตนเองที่ศาลากลางจังหวัดบึงกาฬ เพื่อขอความความช่วยเหลือส่งกลับภูมิลำเนา เจ้าหน้าที่ตรวจสอบโดยการคีย์ข้อมูล ปรากฏว่าไม่มีชื่อของนายสมคิด จึงได้สอบข้อเท็จจริงแล้วนำพานายสมคิดไปส่งขึ้นรถโดยสารประจำทาง เดินทางไปยังหมอชิต เพื่อต่อรถกลับจังหวัดตรัง โดยการช่วยเหลือครั้งนั้นเป็นเงินจำนวน 1,800 บาท
อีกจังหวัดที่นายสมคิดตระเวนไปขอเงิน คือที่สำนักงานพัฒนาสังคมฯ หนองคาย แต่ที่นี่ไม่ได้เงินไป โดยนางสาวสุพรรษา รัตนติสร้อย นักพัฒนาสังคม เล่าเหตุการณ์ในวันนั้นให้ฟังว่า นายสมคิดมาที่สำนักงานเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา พร้อมเอกสารการปล่อยตัวจากเรือนจำจังหวัดหนองคาย และเอกสารหลายอย่างที่เกี่ยวกับคดีของนายสมคิด โดยนายสมคิดบอกว่าเจ้าหน้าที่เรือนจำแนะนำให้มาที่สำนักงานพัฒนาสังคมฯ หลังจากพ้นโทษแล้ว เพื่อมาขอรับเงินช่วยเหลือ ระหว่างที่พูดคุยก็ได้สอบถามนายสมคิดว่าติดคุกคดีอะไร นายสมคิดบอกด้วยท่าทีเรียบเฉยว่า คดีฆ่าข่มขืน เหตุที่ฆ่าเพราะผู้หญิงพูดไม่รู้เรื่องก็เลยฆ่าทิ้ง ซึ่งตลอดการพูดคุย นายสมคิดมีท่าทางสุภาพ พูดจาดี และบอกว่าอยากได้เงินเป็นค่ารถเพื่อจะเดินทางไปหาแฟนที่จังหวัดขอนแก่น แต่เนื่องจากตามระเบียบการช่วยเหลือต้องมีบัตรประจำตัวประชาชน หรือเอกสารราชการที่มีเลขประจำตัว 13 หลัก ยืนยันตัวบุคคล แต่เมื่อตรวจสอบปรากฏว่าไม่พบในฐานข้อมูล จึงไม่สามารถให้เงินช่วยเหลือตามระเบียบได้
ทางด้านญาติของหญิงสาวที่เคยตกเป็นเหยื่อฆาตกรรมของนายสมคิด ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าโล่งใจที่จับตัวนายสมคิดได้ หากไม่ถูกประหารชีวิตก็ขออย่าได้ปล่อยตัวออกจากเรือนจำอีก จะได้ไม่มาสร้างปัญหา ก่อเหตุรุนแรงกับคนอื่นอีก
ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ชี้แจงถึงกรณีที่สังคมสงสัยว่าปล่อยนายสมคิดออกมาได้อย่างไร ทั้งที่ก่อเหตุฆ่าคนตายหลายราย โดยบอกว่าเป็นหลักเกณฑ์กติกาของผู้ต้องหาทั่วไป ซึ่งที่ผ่านมาคดีที่มีความโหดเหี้ยม ฆาตกรต่อเนื่อง หรือคดีข่มขืน เหล่านี้ไม่ได้มีการจับแยกกลุ่มออกมา มีการพิจารณาไปตามมาตรฐานเดียวกันหมด ส่วนตัวจึงเห็นว่าควรจับแยกกลุ่มคนเหล่านี้เป็นกรณีพิเศษ และเฝ้าจับตามอง ทำกฎหมายออกมาใหม่ น่าจะเป็นเรื่องดี ซึ่งเรื่องนี้ได้เร่งดำเนินการแล้ว
สำหรับกรณีที่หลายคนกังวลว่านายสมคิดจะหลุดออกมาได้อีกหรือไม่นั้น นายสมศักดิ์ กล่าวว่า คงไม่น่าหลุดออกมา แต่ก็ไม่สามารถตอบแทนขั้นตอนของศาลได้ ย้ำว่าเรื่องนี้อย่างไรก็ต้องจัดระเบียบกฎเกณฑ์รูปแบบใหม่ให้ได้ ซึ่งอาจจะไม่ได้รับการอภัยโทษอีก ส่วนความปลอดภัยของผู้แจ้งเบาะแส หากดูแล้วไม่ปลอดภัยก็สามารถขอทางกระทรวงยุติธรรม จะมีเจ้าหน้าที่คุ้มครองได้ ไม่มีปัญหา
ทั้งนี้ ส่วนตัวสนับสนุนให้มีโทษประหารชีวิต แต่ติดเงื่อนไขของสังคม ซึ่งในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีการประหารชีวิตเพียงครั้งเดียว เป็นเรื่องของสิทธิมนุษยชนทั่วโลกด้วยที่ไม่ค่อยเห็นด้วย ยืนยันว่าจะไม่ละเลย จะเข้มงวด และไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นอีก เมื่อถามว่ากลัวหรือไม่ว่านายสมคิดติดคุกแล้วจะไปใช้กฎหมายออกมาสู้คดี รัฐมนตรียุติธรรมบอกว่า นักกฎหมายที่อยู่ข้างนอกต้องสู้กับสมคิด ปล่อยให้สมคิดเอาชนะได้อย่างไร.-สำนักข่าวไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• ทำแผนมหาสารคามหนึ่งในเส้นทาง “สมคิด” หลบหนีคดีฆ่าจากขอนแก่น
• “สมคิด” ปฏิเสธทำแผนฯ บ้านจุดเกิดเหตุ คุมทำแผนฯ เส้นทางหนี
• เตรียมคุมตัว “สมคิด” ทำแผนฯ หลังสอบปากคำตลอดคืน
• ตำรวจ สภ.ปากช่อง เตรียมแถลงรวบ “สมคิด พุ่มพวง”
• เปิดวินาทีจับ “สมคิด เดอะริปเปอร์” บนขบวนรถไฟที่โคราช