นครปฐม 13 ธ.ค.- นายกรัฐมนตรีมอบค่าเวนคืนที่ดิน และตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ขอทุกคนสามัคคี นึกถึงประโยชน์ส่วนรวมก่อนประโยชน์ส่วนตัว อย่ามัวแต่วิ่งไล่ตน พร้อมตัดพ้อ งบประมาณปี 63 ยังไม่ผ่าน ก็มีคนขอยกเลิก วอนให้รัฐบาลได้ทำงานก่อน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบค่าเวนคืนที่ดิน และตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางใหญ่ กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กิโลเมตร ต.โพรงมะเดื่อ อ.มือง จ.นครปฐม กรอบวงเงิน กว่า 17,452 ล้านบาท ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะเชื่อมโยงเข้ากับภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร โดยเป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งรัฐบาลจะจ่ายเงินค่าเวรคืนที่ดินให้กับประชาชน ภายในเดือน ธันวาคม 2562 และคาดการณ์ว่า โครงการก่อสร้างจะแล้วเสร็จสิ้นภายในต้นปี 2566 โดยรัฐบาลอนุมัติปรับกรอบวงเงินค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน จากเดิม 5,420 ล้านบาท เป็น 17,452 ล้านบาท เพื่อให้โครงการสำเร็จโดยเร็ว
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ดีใจที่ได้มอบค่าเวนคืน เชื่อว่าทุกคนรอมานาน เพราะศึกษามาตั้งแต่ปี 2541 และทำให้มีวันนี้ วันที่ปลดล็อกค่าเวนคืนที่ดิน หากก่อสร้างให้แล้วเสร็จเร็วกว่าปี 2566 ได้ก็จะดี ส่วนใครที่ไม่ได้รับเงิน ก็อย่าน้อยใจ เพราะได้โครงสร้างพื้นฐานคืนมา การก่อสร้างมอเตอร์เวย์นี้ เป็นการลงทุนร่วมกันระหว่างรัฐและเอกชน จึงขอให้เข้าใจว่าโครงสร้างพื้นฐานที่ดำเนินการไว้ ไม่สามารถรองรับรถได้ทั้งหมดได้ เพราะรถมีจำนวนเพิ่มขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้พัฒนาแค่ถนนเท่านั้น แต่พัฒนาแหล่งน้ำด้วย ยืนยันว่า รัฐบาลเข้ามาดูแล มีการอนุมัติจัดทำงบประมาณให้เรียบร้อย สิ่งที่ต้องคิดต่อไปคือ ลูกหลานต้องไม่ลำบากในวันข้างหน้า โดยการสร้างการเรียนรู้ สร้างความเข้มแข็ง ทุกคนต้องสร้างประเทศใหม่
“รัฐบาลร้อนใจยิ่งกว่าประชาชน ยิ่งต้องหารายได้ การส่งออกก็มีปัญหา รัฐบาลพยายามแก้ไขอยู่ แต่ทุกคนก็ต้องร่วมมือกัน ขณะที่ การค้าขายออนไลน์ กำลังเข้ามาอยู่ในประเทศ เมื่อโลกปรับ เราก็ต้องเปลี่ยน สิ่งที่รัฐบาลมุ่งเน้น คือ การสร้างโอกาสให้เท่าเทียม ด้วยการสร้างถนนหนทาง อย่ามัววิ่งตามผม อย่ามัวแต่วิ่งไล่ผม ทุกคนต้องรวมพลังรักสามัคคี นึกถึงประโยชน์ส่วนรวมก่อนประโยชน์ส่วนตัว” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกอย่างตนศึกษามาแล้ว วันนี้มาพูดกับชาวภาคกลาง เราต้องคิดไปด้วยกัน ถ้าเราจะอยู่สบายแบบเดิม ไม่ขยันทำกินก็แย่ลงทุกคน ปี 2565 ผู้สูงอายุจะมีจำนวนมากขึ้น คนรุ่นใหม่ก็ไม่ค่อยมีลูก เมื่อคนสูงวัยมากขึ้น คนอายุยืนขึ้น การดูแลก็ต้องมากขึ้น หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าก็พัฒนาไปมาก ต้องติดตามดู จะได้ไม่ถูกใครบิดเบือน
“สังคมไทยต้องปรองดอง ลดความขัดแย้ง ปล่อยให้ 3 ฝ่ายทำงาน อย่าให้ทุกอย่างล่าช้า วันนี้แค่งบประมาณปี 2563 ยังไม่ออกเลย ทำให้การใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาลช้า ส่งผลกระทบต่อทุกด้าน และยังมีคนจะยกเลิกงบประมาณอีก ผมคิดว่ายังไม่ถึงเวลา ขอให้ทำงานไปเรียบร้อยก่อน เพิ่งจะทำงานได้ไม่กี่เดือน” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี ได้ขอบคุณทุกภาคส่วน และให้กำลังใจตำรวจ ทหารในการทำงาน ขอให้ทุกคนทำความดี ทุกคนต้องใช้เวลาในการสร้างความเข้มแข็ง อย่าคิดเรื่องการทุจริต เพราะเป็นสิ่งที่ผิด ส่วนท้องถิ่น ที่จะมีการเลือกตั้ง ก็ขอให้เลือกให้ดี
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้กล่าวทักทายและถ่ายรูปกับประชาชนที่มารอต้อนรับอย่างเป็นกันเอง .- สำนักข่าวไทย