พะเยา 11 ธ.ค.- พุทธศาสนิกชนชาวใน จ.พะเยา และเชียงใหม่ ร่วมประเพณีตักบาตรเที่ยงคืน หรือพิธีตักบาตรเป็งปุ๊ด ท่ามกลางอากาศหนาวเย็น 9 องศาฯ สืบทอดประเพณีโบราณมาจนถึงปัจจุบัน
เมื่อเวลา 00.00 น.ที่ผ่านมา พระครูวิจิตร กิจจานุกูล รองเจ้าอาวาสวัดศรีอุโมงค์คำ (วัดสูง) ต.เวียง อ.เมือง จ.พะเยา พร้อมคณะสงฆ์ และชาวพุทธศาสนิกชนร่วมกันทำบุญตักบาตรเที่ยงคืน หรือวันเป็งปุ๊ด พระภิกษุสามเณรจะออกบิณฑบาตในตอนเที่ยงคืน เพื่อให้ชาวพุทธศาสนิกชนทำบุญตักบาตรพระอุปคุตและพระภิกษุสงฆ์ สามเณร ในคืนพระจันทร์เต็มดวง ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น อุณหภูมิ 9 องศาฯ พระภิกษุสงฆ์สามเณรต้องคลุมผ้าห่มสวมหมวกไหมพรหม เพื่อบรรเทาความหนาวเย็นของอากาศตอนเที่ยงคืน เช่นเดียวกับชาวพุทธศาสนิกชนต้องสวมใส่เสื้อกันหนาวและหมวกด้วยเช่นกันเพื่อให้ร่างกายอบอุ่นในขณะที่ทำบุญใส่บาตร
ส่วนที่ จ.เชียงใหม่ ประชาชนออกมาใส่บาตรกลางคืน หรือใส่บาตรเที่ยงคืน กับสามเณรน้อยวัดโสภณาราม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ที่บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม บูชาพระคุณพ่อ จำนวน 101 รูป มาเดินบิณฑบาตบริเวณข่วงประตูท่าแพในตัวเมืองเชียงใหม่ โดยมีประชาชนนำขนมและอาหารแห้งมาใส่บาตรจำนวนมาก โดยสามเณรให้พรพร้อมกันจนเสียงดังก้อง
ทั้งนี้ เป็นความเชื่อของชาวล้านนา การใส่บาตรเที่ยงคืน ก่อนวันขึ้น 15 ค่ำ ตรงกับวันพุทธ ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 11 ธันวาคม 2562 เป็นวันพระใหญ่ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 1 ตามความเชื่อ พระอุปคุตที่เป็นใหญ่แห่งท้องทะเล และเป็นพระอรหันต์ จะขึ้นมาสะดือทะเล โดยแปลงกลายเป็นสามเณรน้อยออกบิณฑบาต หากได้ใส่บาตรพระอุปคุตเชื่อว่าจะได้บุญกุศลที่ยิ่งใหญ่ และทำมาค้าขายดี จึงนิยมใส่บาตรเที่ยงคืน จนเป็นประเพณี
ขณะเดียวกัน ที่วัดอุปคุตในตัวเมืองเชียงใหม่ มีพระภิกษุสามเณรจำนวนมากมารอรับบาตรจากประชาชน ท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเย็น ส่วนใหญ่เป็นพระสงฆ์ที่มาจากอำเภอรอบนอกและต่างจังหวัด โดยมีพิธีทางศาสนาบนพระวิหาร ก่อนจะมีการใส่บาตรเที่ยงคืนตามประเพณี.-สำนักข่าวไทย