นครนายก 5 ธ.ค.-เจ้าหน้าที่กรมการปกครองบุกทลายบ่อนเจ๊รุ้งบ้านนา อ.บ้านนา จ.นครนายก รวบนักพนัน 57 คน ยึดอุปกรณ์การเล่นการพนัน เงินสดจำนวนหนึ่ง โดยบ่อนแห่งนี้เปิดมานานมาก แม้จะมีการร้องเรียนหลายครั้ง แต่ก็รอดการจับกุมทุกครั้ง
เมื่อวานนี้ (4 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่กรมการปกครองบุกเข้าไปยังบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ตำบลป่าขะ อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก หลังได้รับร้องเรียนจากประชาชนว่ามีการเปิดบ่อนพนันขนาดใหญ่ ก่อนหน้านี้ได้ส่งพนักงานฝ่ายปกครอง (สายลับ) เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าบ่อนแห่งนี้เป็นบ้านพักส่วนบุคคลขนาดใหญ่ เนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ มีรั้วกำแพงคอนกรีตสูงประมาณ 3 เมตร มีกล้องวงจรปิดติดตั้งไว้รอบบ้าน อีกทั้งหน้าประตูทางเข้ามีคนเฝ้าเพื่อดูต้นทาง คัดกรองคน และเปิดปิดประตูให้กับนักพนันที่เข้ามาเล่นการพนัน ลานหน้าบ้านถูกจัดให้เป็นที่จอดรถประมาณ 30 คัน ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวก อาหาร เครื่องดื่ม ไว้บริการนักพนัน โดยภายในเนื้อที่บ้านหลังดังกล่าวมีการปลูกอาคารอยู่หลายหลัง ซึ่งหนึ่งในนั้นมีอาคารหลังหนึ่งที่เป็นสถานที่เล่นการพนัน ภายในอาคารจะมีการดัดแปลงเป็นพื้นที่โล่ง และเสริมผนังอาคารเพื่อป้องกันเสียง การบุกค้นครั้งนี้มีของกลางที่ตรวจยึดได้เป็นอุปกรณ์การเล่นการพนัน เงินสดจำนวนหนึ่ง สมุดบันทึกบัญชี
นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง เปิดเผยว่า บ่อนแห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นบ่อนอมตะ เนื่องจากเปิดมานานหลายปี ที่ผ่านมาเมื่อปี 60 ก็ถูกทหารขอหมายศาลเข้าตรวจค้น แต่ไหวตัวทัน เก็บข้าวของไปหมด กระทั่งปีนี้มีประชาชนส่งเรื่องร้องเรียนมาอีก จากการตรวจสอบพบว่ามีการเล่นพนันอยู่ 2 ประเภท คือ กำถั่ว และไพ่ป๊อก แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการเล่นการพนันไฮโล เสือมังกร แต่เนื่องจากถูกเจ้าหน้าที่กวดขัน จึงมีการเก็บไปก่อนแล้ว ทำให้มีผู้เล่นลดน้อยลง จากปกติจะมีร่วม 100 คน แต่ครั้งนี้สามารถจับกุมได้ 57 คน ขณะที่รถที่จอดภายในบ้านพบว่ามีฝุ่นเกาะเป็นจำนวนมาก แสดงให้เห็นว่าถูกจอดทิ้งไว้นาน ประกอบกับเมื่อตรวจสอบสมุดบัญชีจึงทราบว่ารถที่จอดอยูถูกนำมาจำนำ จากนักพนันที่เล่นเสียก็จะใช้รถมาจำนำกับทางบ่อน
พ.ต.อ.กสินธุ์ ธำรงศรีสุข ผกก.สภ.บ้านนา บอกว่า ช่วงต้นปีทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจค้นแล้ว 3 ครั้ง และปีก่อนหน้านี้ได้เข้าไปอีกหลายครั้ง แต่ละครั้งต้องมีขั้นตอนในการขอหมายศาลทุกครั้ง แต่ทางบ่อนพนันมีสายข่าวก็จะทราบก่อนเกือบทุกครั้งที่จะมีเจ้าหน้าที่ที่ได้รับขอหมายศาลไปตรวจค้นก็จะไหวตัวทัน
เบื้องต้นเจ้าของบ่อนมีความผิดเกี่ยวกับการพนัน ถือเป็นความผิดมูลฐาน ตามมาตรา 3 (9) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 หากทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทําความผิดครั้งนี้มีมูลค่าตามเกณฑ์จะได้แจ้งไปยัง ปปง. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายฟอกเงินต่อไป
ส่วนนักพนันทั้ง 50 คน ที่ถูกจับได้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้นำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติม จากนั้นทำประวัติที่ที่ว่าการอำเภอบ้านนา ก่อนทำสำนวนส่งศาลให้พิจารณาเสียค่าปรับต่อไป.-สำนักข่าวไทย