ปัตตานี 23 พ.ย.-ชุดพิสูจน์หลักฐานตรวจปืนสั้น 2 กระบอกของแกนนำอาร์เคเคที่ถูกวิสามัญฯ เมื่อคืนวันที่ (21 พ.ย.) ปรากฏว่าเป็นปืนที่การใช้ยิงผู้บริสุทธิ์มาแล้วกว่า 30 ศพ
ความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่สนธิกำลังปิดล้อม และเกิดการยิงปะทะกับผู้ก่อเหตุในไม่สงบในพื้นที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี จนทำให้นายมะยะโก๊ะ ลาเต๊ะ อายุ 40 ปี และนายซอบรี หลำโสะ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ 6 หมายจับถูกวิสามัญฆาตกรรมเมื่อวานนี้ โดยผู้ก่อเหตุถือว่าเป็นแกนนำอาร์เคเคระดับสั่งการและปฏิบัติการ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ล่าสุดผลตรวจปืนสั้นที่ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คนใช้ยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่ พบว่าปืนขนาด 9 มม. ที่ตกอยู่ข้างศพนายซอบรี ถูกชิงมาจากเหยื่อเหตุไม่สงบเมื่อปี 2561 และถูกนำไปก่อเหตุ 6 เหตุการณ์ ทั้งในพื้นที่อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี, อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา และอำเภอเมือง จังหวัดยะลา มีผู้เสียชีวิตจากปืนกระบอกนี้ 22 ศพ
ส่วนปืนขนาด 11 มม. ที่ตกอยู่ข้างกายของนายมะยะโก๊ะ ยังไม่ทราบที่มา แต่ทราบว่าถูกนำไปก่อเหตุยิงผู้บริสุทธิ์ 8 เหตุการณ์ ทั้งอำเภอโคกโพธิ์ รวมถึงอำเภอเทพาและสะบ้าย้อย มีผู้เสียชีวิตรวม 12 ศพ
รายงานจากแหล่งข่าวระดับสูงพบว่า ชุดสืบสวนทราบว่าทั้ง 2 คน คือ บุคคลอันตรายและเป็นภัยต่อความมั่นคง โดยอาร์เคเคกลุ่มนี้พัฒนารูปแบบการก่อเหตุไปหลากหลายทิศทาง ไม่ใช่เพียงมุ่งเป้าสร้างสถานการณ์ แต่ยังมีการปล้นทรัพย์ธนาคาร หรือปล้นร้านทองในพื้นที่ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบแรงจูงใจในการก่อเหตุเกี่ยวกับการปล้นทรัพย์ของอาร์เคเคกลุ่มนี้.-สำนักข่าวไทย