กทม. 9 ก.ค.- หนุ่มบุกเคลียร์ใจแฟนสาว แต่ไม่เจอตัว ทะเลาะแม่ยาย กะใช้อาวุธปืนยิงแม่ยาย แต่น้องแฟนและแฟนหนุ่มน้องมาขวางไว้ถูกลูกหลงถูกยิงดับ 1 เจ็บ 1 ก่อนใช้ปืนกระบอกเดียวกันยิงตัวเองหนีความผิด
ตำรวจ สน.อุดมสุข กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุภายในห้องเช่า ไม่มีหมายเลข ซอยเฉลิมพระเกียรติ ร.9 38 แยก 1 พบผู้เสียชีวิต 2 คน คือ นายเจษฎา หรือ ท็อป อายุ 35 ปี ผู้ก่อเหตุ และนายพงศพัศ อายุ 18 ปี ส่วนหญิงอีก 1 คน ได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง สอบถามเพื่อนบ้าน บอกว่า ช่วงประมาณเที่ยงวันนี้ ระหว่างนอนอยู่ ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด จากนั้นก็ได้ยินเสียงผู้หญิงร้อง ไม่นานก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีก 3-4 นัด จึงวิ่งออกมาดู ก่อนทราบภายหลังว่าห้องที่เกิดเหตุเป็นห้องด้านหลัง มีคนพักอาศัยอยู่3-4 คน แต่ก่อนเกิดเหตุ ไม่ได้ยินเสียงทะเลาะ ขณะที่เพื่อนบ้านอีกคนบอกว่า ได้ยินเสียงทุบกระจกบานเกร็ด แล้วชายเสื้อสีชมพูก็ปีนเข้าไปในห้องดังกล่าว
ด้าน นางสาว เจนจิรา อายุ 33 ปี น้องสาวของผู้ก่อเหตุ เล่าว่า พี่ชายได้เลิกรากับนางสาวพรวิภา อายุ 33 ปี มาได้ประมาณ 2-3 เดือน ทั้งที่เพิ่งแต่งงานกันส่วนสาเหตุที่เลิกกันนั้น ไม่รู้ เพราะปกติพี่ชายไม่ค่อยเล่าปัญหาให้ฟัง มีแต่บ่นบ้างว่าทะเลาะกับแฟนและแม่ยาย เรื่องเงิน ที่ทางบ้านของแฟน คิดว่าพี่ชายเธอไม่มีเงิน เพราะทำอาชีพรับจ้างทั่วไป และยังเคยบ่นว่าแม่ยายไม่ค่อยเปิดใจรับตัวพี่ชาย ทั้งที่ได้แต่งงานกับแฟนไปแล้ว และทุกครั้งที่พี่ชายกลับมาบ้านพ่อบ้านแม่ก็จะทะเลาะกันกับแฟนและแม่ยายเสมอ โดยล่าสุด เมื่อวานเพิ่งเจอพี่ชายมีท่าทางเครียด แต่ก็ไม่ได้เล่าอะไร จนวันนี้ได้รับข่าวจากคนแถวบ้านว่าพี่ชายก่อเหตุดังกล่าว โดยรุ่นน้องที่มากับพี่ชาย บอกว่า พี่ชายตั้งใจจะเข้ามาเก็บของ เสื้อผ้า แต่มาแล้วไม่เจอแฟน เจอแต่แม่ยาย น้องสาวแฟน และแฟนของน้องสาว และเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นพี่ชายบอกกับรุ่นน้องที่มาด้วยว่าอย่ามายุ่ง ก่อนที่จะชักปืนขึ้นมายิงแม่ยาย แต่แฟนหนุ่มของน้องสาวแฟน และน้องสาวแฟนเข้ามาห้าม จึงถูกยิง พร้อมบอกอีกว่า โดยปกติแล้ว พี่ชายไม่ได้เป็นคนใจร้อนยกเว้นมีเรื่องทำให้โมโหก็จะฟิวส์ขาด แต่นานๆจะเกิดขึ้น ยืนยันว่าพี่ชายไม่ได้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และยอมรับว่าตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ขณะที่แม่ของนายพงศพัศ อายุ 18 ปี ผู้เสียชีวิตบอกว่า ลูกชายมาอาศัยอยู่กับแฟนในบ้านที่เกิดเหตุได้ระยะหนึ่งแล้ว เนื่องจากบ้านที่อยู่ซ่อมแซม และเมื่อประมาณเดือนก่อน ลูกชายได้โทรศัพท์มาเล่าว่า ผู้ก่อเหตุ เคยถือมีด ถือปืน มาตามง้อพี่สาวแฟน ที่บ้าน แต่มาด้วยอาการโมโห โวยวาย และในฐานะที่ลูกชายเป็นผู้ชายคนเดียวในตอนนั้นจึงต้องเข้าไปห้าม แต่ครั้งนั้นก็ไม่เกิดเรื่องอะไร ซึ่งพอรู้ก็ได้บอกกับลูกชายไปว่า อย่าไปยุ่งเรื่องของคนอื่น หลังจากนั้นลูกชายก็ไม่ได้เล่าอะไรอีกเลย จนกระทั่งวันนี้มีคนโทรศัพท์ไปหาบอกว่าลูกชายเสียชีวิต ก็ตกใจ ทั้งที่เคยห้ามไปแล้วว่าอย่าไปยุ่ง ซึ่งอยากให้ครอบครัวของผู้ก่อเหตุรับผิดชอบเพราะลูกชายไม่ได้มีอะไรบาดหมางกับผู้ก่อเหตุ
ล่าสุดตำรวจได้เชิญตัวเพื่อนรุ่นน้องของผู้ก่อเหตุ แฟนสาวผู้ก่อเหตุและแม่ยายที่อยู่ในที่เกิดเหตุไปสอบปากคำที่ สน.อุดมสุข เพื่อสอบสวนถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น .-สำนักข่าวไทย
