fbpx

แกนนำเกษตรกรยัน ไม่ส่งมอบ3สารเคมี


กรุงเทพฯ 23 พ.ย.-แกนนำเกษตรกรยัน ไม่ส่งมอบสารเคมี 3 ชนิด แม้ประกาศยกเลิกจะมีผลบังคับใช้ 1 ธ.ค. สวน “มนัญญา” ที่ระบุจะนำม็อบเสื้อขาวมาสยบ ด้านภาคเอกชนย้ำเสนอเลื่อนยกเลิก 2 ปี ในขณะที่แผนเยียวยาของก.เกษตรยังไร้ข้อยุติ

นายสุกรรณ์ สังข์วรรณะ เลขาธิการสมาพันธ์เกษตรปลอดภัยกล่าวว่า แม้ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมยกเลิก 3 สารมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ธันวาคม เกษตรกรจะไม่ส่งมอบสารให้กรมวิชาการเกษตรเนื่องจากใช้เงินตัวเองซื้อมาในขณะที่เป็นของถูกกฎหมาย และในวันที่ 26 พ.ย. นี้จะแต่งชุดดำแล้วไปรวมตัวกันที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตั้งแต่เช้า โดยหวังว่า จะได้หารือกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้นายเฉลิมชัยรับฟังความเดือดร้อนของเกษตรกร จากนั้นจะเคลื่อนขบวนไปพบนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล 


“เกษตรกรแต่งชุดดำนั้นเพื่อไว้อาลัยต่อกฎหมายอยุติธรรม เป็นการรวมตัวกันโดยสงบและใช้หลักอหิงสา ไม่ใช่การก่อม็อบ ส่วนการที่ น.ส. มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ระบุว่า หากมากดดัน ม็อบเสื้อขาวพร้อมสยบม็อบเสื้อดำ นั้นเห็นว่า ไม่สมกับเป็นคำพูดของรัฐมนตรีเกษตรฯ นอกจากไม่ช่วยเกษตรกรแล้ว ยังข่มขู่อีกด้วย พร้อมถามกลับว่า ม็อบเสื้อขาวเป็นคนกลุ่มใด ใช่ม็อบเสื้อกาวน์หรือไม่ หากใช่ถือว่า เป็นกระบวนการจัดตั้งม็อบมาทำร้ายเกษตรกร” นายสุกรรณ์ กล่าว

นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล นายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย ผู้แทนภาคอุตสาหกรรมกล่าวถึง ผลกระทบจากการยกเลิกการใช้สาร 3 ชนิดว่า ผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมมี 2 ด้านคือ ผลกระทบต่อการเกษตรกรและอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร การลงมติให้ยกเลิกอย่างกระทันหันจึงทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น  ส่งผลกระทบรุนแรงต่ออุปทาน (supply) ของอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร และตลอดจนอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง สมาคมอุตสาหกรรมและธุรกิจต่างๆ ขอเสนอให้ชะลอการบังคับใช้การยกเลิกสารทั้ง 3 ชนิดออกไปอีกอย่างน้อย 2 ปี โดยระหว่างนั้นให้ดำเนินการตามมาตรการจำกัดการใช้สารเคมีทั้ง 3 ชนิด ศึกษาทบทวนหลักฐานข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ในสาขาต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการยกเลิกการใช้อย่างละเอียดรอบคอบ พร้อมทั้งศึกษาและพิสูจน์ประสิทธิภาพและต้นทุนของสารหรือวิธีการทดแทน และพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตให้ชัดเจน หารือกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจากทุกภาคส่วนให้ครบถ้วนและทั่วถึงในวงกว้าง ที่สำคัญคือ อบรมเกษตรกรอย่างทั่วถึงในการส่งเสริมการทำเกษตรปลอดภัย (GAP) เพื่อป้องกันดูแลสุขภาพเกษตรกรและผู้บริโภคทั้งประเทศ

“แนวทางดังกล่าวจะลดผลกระทบที่มีต่อเกษตรกรกว่า 2 ล้านครัวเรือนและแรงงานภาคเกษตร 12 ล้านคน ป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับระบบเศรษฐกิจโดยรวมมากกว่า 1.715 ล้านล้านบาทซึ่งเป็นผลจากผลผลิตในประเทศลดลง ประกอบกับการที่ไม่สามารถนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ อุตสาหกรรมหลายประเภทหยุดชะงัก กระทบต่อ GDP และการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ” นายพรศิลป์กล่าว


ด้านนายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประชุมคณะทำงานพิจารณาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกใช้สารเคมีทางการเกษตร 3 ชนิด  วานนี้ (22พ.ย.) ว่า ที่ประชุมได้นำเสนอข้อมูลประกอบการพิจารณาและได้ข้อสรุปว่าให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับไปคิดโครงการในการช่วยเหลือเกษตรกร อาทิ มาตรการในการเยียวยา โดยให้จัดทำหลักเกณฑ์ การกำหนด กลุ่มเป้าหมาย  จำนวนพื้นที่ ที่จะได้รับผลกระทบ อัตราที่จะใช้การเยียวยา , มาตรการจัดการเชิงปฏิวัติในการกำจัดวัชพืชเมื่อมีการยกเลิกการใช้สารเคมี เช่น การใช้เครื่องจักรกลทางการเกษตร หรือการทำเกษตรสมัยใหม่ เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้มอบหมายให้จัดตั้งทีม Task Force เพื่อศึกษาวิจัย หาสารชีวภัณฑ์ หรือ จุลินทรีย์ มาทดแทนการใช้สารเคมี ซึ่งในประเด็นดังกล่าวจะมีการนำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาต่อไป

-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้