ปารีส 13 พ.ย.- สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศหรือไออีเอ (IEA) คาดว่า ความต้องการน้ำมันโลกจะเริ่มชะลอการเติบโตตั้งแต่ปี 2568 เนื่องจากมีปรับปรุงเรื่องการประหยัดน้ำมันและมีการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น
ไออีเอซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงปารีสของฝรั่งเศสออกรายงานประจำปีเรื่องแนวโน้มพลังงานโลกจนถึงปี 2583 ว่า ความต้องการใช้พลังงานจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจากวันละ 97 ล้านบาร์เรลเมื่อปีก่อนจะเพิ่มขึ้นอีกวันละ 1 ล้านบาร์เรลต่อปีไปจนถึงปี 2568 จากนั้นจะเพิ่มขึ้นอีกวันละ 1 แสนบาร์เรลต่อปีระหว่างปี 2573-2582 ก่อนไปอยู่ที่วันละ 106 ล้านบาร์เรลในปี 2583 เพราะยังมีความต้องการใช้น้ำมันจากรถบรรทุก เรือขนส่ง เครื่องบิน และภาคปิโตรเคมี
รายงานคาดว่า ความต้องการใช้พลังงานหลักจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 ภายในปี 2583 ส่วนความต้องการใช้พลังงานหมุนเวียนจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 50 และความต้องการใช้แก๊สจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 35 ไอเออีคาดว่า จะมียานยนต์ไฟฟ้าแล่นตามท้องถนนทั่วโลกประมาณ 330 ล้านคันภายในปี 2583 ลดการใช้น้ำมันลงวันละ 4 ล้านบาร์เรล ส่วนการผลิตน้ำมันจะเพิ่มขึ้นมากที่สุดในสหรัฐ ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลก โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากวันละ 6 ล้านบาร์เรลเมื่อปีก่อนเป็นวันละ 11 ล้านบาร์เรลในปี 2578 และอาจเพิ่มขึ้นมากในอิรักและบราซิล สวนทางกับการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันหรือโอเปกและรัสเซียที่จะลดลงเหลือร้อยละ 47 ในคริสต์ทศวรรษหน้า ขณะที่ราคาน้ำมันน่าจะเกือบแตะบาร์เรลละ 90 ดอลลาร์สหรัฐ (เกือบ 2,723 บาท) ในปี 2573 และ 103 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,116 บาท) ในปี 2583.-สำนักข่าวไทย