ก.คลัง 13 พ.ย. – สายการบินโลคอร์สยื่นคลังทบทวนภาษีสรรพสามิตเครื่องบินไอพ่น ยอมรับปีหน้ากระทบหนัก หลายสายการบินต้องหาทางลดต้นทุนจากผลขาดทุน หลังแบกรับภาระต้นทุนน้ำมัน ยอมรับต้องปรับลดเที่ยวบินเส้นทางหลัก
นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง) รับหนังสือจากนายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานกรรมการบริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย ในฐานะตัวแทนสายการบินต้นทุนต่ำ 5 แห่ง เพื่อเสนอการทบทวนเก็บภาษีสรรพสามิตสำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินไอพ่นลดลง หลังจากรัฐบาลปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบินไอพ่นตั้งแต่กันยายน 2562 จัดเก็บภาษีในอัตรา 4.726 บาทต่อลิตร เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับการใช้นำมันดีเซลและเบนซิล ยอมรับว่าในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาเมื่อเศรษฐกิจชะลอตัวได้กระทบต่อการท่องเที่ยวในประเทศ จำนวนผู้โดยสารจากเดิมเกือบเต็มเครื่องร้อยละ 80-100 ต่อเที่ยวบิน ลดลงเหลือร้อยละ 70-80 และยังได้รับผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง กระทบต่อการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวของต่างชาติ รวมถึงการแบกระรับภาระต้นทุนจากการสตอกน้ำมันของสายการบิน
นายชาญกฤช กล่าวเพิ่มเติมภายหลังหารือร่วมกันว่า เตรียมนำความเดือดร้อนของสายการบินต้นทุนต่ำเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อตั้งคณะกรรมการร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชนพิจารณาข้อเสนอในการขอลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบินไอพ่น จากปัจจุบัน 4.726 บาทต่อลิตร เมื่อเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้นในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าค่อยทยอยตัดสินใจจัดเก็บเหมือนเดิม หรือเลือกแนวทางเทียบเคียงกับค่าเงินบาทแบบขั้นบันได เช่น หากค่าเงินบาทเคลื่อนไหว 30-32 บาทต่อดอลาร์สหรัฐ จัดเก็บอัตราหนึ่ง และเคลื่อนไหวระดับราคา 33-34 บาทต่อดอลาร์สหรัฐ จัดเก็บอัตราหนึ่ง กระทรวงการคลังจึงรับข้อเสนอมาพิจารณาแนวทางดังกล่าว เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกช่องทางหนึ่ง
นายธรรศพลฐ์ กล่าวว่า สายการบินต้นทุนต่ำได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัว ยอมรับว่าเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เป็นเส้นทางยอดนิยม แอร์เอเชียยอมแบกรับภาระภาษีแทนผู้โดยสาร 150 บาทต่อลิตร จากค่าตั๋ว 1,200 บาทต่อเที่ยวบิน ขณะนี้เริ่มแบกรับภาระต้นทุนไม่ไหวและไม่สามารถผลักภาระเพิ่มค่าโดยสารได้ และทุกสายการบินต้นทุนต่ำ 5 ราย ประสบปัญหาขาดทุนมากขึ้น เพราะยอดผู้โดยสารลดลงร้อยละ 4-5 ในต้นปีหน้าอาจเห็นหลายแห่งมีปัญหามากขึ้น หลายสายการบินปรับกลยุทธ์ด้วยการลดเที่ยวบินร้อยละ 15 เส้นทางหลักทั้งเชียงใหม่ กระบี่ ภูเก็ต จึงต้องเสนอรัฐบาลดูแล รวมทั้งชะลอการซื้อเครื่องบินเพิ่มปี 2563 และขอประเมินการท่องเที่ยวในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2563 แม้ว่ารัฐบาลเปิดทางให้โครงการชิมช้อปใช้เฟส 3 นำค่าตั๋วเครื่องบินรวมอยู่แพ็กเกจทัวร์ สำหรับการท่องเที่ยวผ่านชิมช้อปใช้ เพื่อส่งเสริมการคนไทยท่องเที่ยวมากขึ้น แต่ยังต้องช่วยเหลือผ่านอีกหลายมาตรการ เพื่อให้สายการบินดีขึ้นจากผลขาดทุนในปัจจุบัน.-สำนักข่าวไทย