“สมคิด” ดันลงทุนอีอีซีขับเคลื่อนเศรษฐกิจปี 63

กรุงเทพฯ 6 พ.ย. – “สมคิด” ยืนยันการลงทุนจะเป็นปัจจัยสำคัญฟื้นเศรษฐกิจไทยปี 2563 โดยเฉพาะการลงทุนพื้นที่อีอีซีมีเมกะโปรเจ็กต์ด้านคมนาคมเป็นตัวขับเคลื่อน


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ปาฐกพิเศษ หัวข้อ “Thailand 2020” ระบุว่าปัจจัยสำคัญทำให้เศรษฐกิจไทยปัจจุบันประสบภาวะชะลอตัวต่อเนื่อง โดยไตรมาส 2 เศรษฐกิจไทยขยายตัวร้อยละ 2.3 อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าไตรมาส 3 และ 4 จะปรับตัวทิศทางดีขึ้น ยอมรับว่าที่ผ่านมาการใช้เวลาจัดตั้งรัฐบาลที่ยาวนาน รวมทั้งปัจจัยภาวะเศรษฐกิจโลกไม่ดีส่งผลต่อเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญหลายประเทศ ส่งผลโดยตรงต่อภาคการส่งออกที่เป็นตัวขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทย 

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลพยายามขับเคลื่อนเศรษฐกิจรักษาการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2563 มั่นใจว่านอกจากภาคการท่องเที่ยวที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตต่อเนื่องแล้ว ภาคการลงทุนก็จะมีส่วนสำคัญโดยเฉพาะการลงทุนพื้นที่อีอีซี ซึ่งมีโครงการระบบคมนาคมที่เป็นโครงการขนาดใหญ่รอการลงทุนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง โครงการพัฒนามาบตาพุด โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน โดยครงการเหล่านี้จะต้องผลักดันให้เกิดขึ้นให้ได้ เพราะจะเป็นปัจจัยสำคัญสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุนต่างชาติ โดยรัฐบาลจะเร่งออกผังเมืองอีอีซี ทำให้การพัฒนาเกิดขึ้นเป็นระบบและมีการจัดการที่ดี 


นอกจากนี้ ปี 2563 จะเป็นปีสำคัญในการพัฒนาระบบการสื่อสารแบบ 5G เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล โดยจะเน้นเข้าถึงประชาชน การจัดทำและส่งเสริมการลงทุนศูนย์ข้อมูลเพื่อประโยชน์ทางธุรกิจ ซึ่งรัฐบาลขอให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ส่งเสริมการลงทุนเรื่องดังกล่าว เพื่อให้ภาคเอกชนเข้ามาลงทุน เนื่องจากการพัฒนาศูนย์ข้อมูลเหล่านี้จะมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนภาคธุรกิจ ซึ่งที่ผ่านมาเอกชนไทยเริ่มดำเนินการไปแล้ว หลังจากนี้ต้องมีการพัฒนาศูนย์ข้อมูลภาครัฐเพื่อก้าวให้ทันกัน 

นายสมคิด กล่าวว่า การขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลังจากนี้ซึ่งรัฐบาลขับเคลื่อนโดย ครม.เศรษฐกิจจะเร่งสร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจฐานราก โดยเน้นทำโครงการประชารัฐให้มีความเข้มแข็ง การพัฒนาสินค้าชุมชนให้มีช่องทางจำหน่าย  การส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองหัวใจสำคัญต้องทำให้ระบบคมนาคมเข้าไปถึงทุกหมู่บ้าน แนวทางเหล่านี้ถือเป็นการพัฒนา Local Economy เข้ามาเพิ่มความสำคัญทดแทนภาคการส่งออกที่ไทยยังพึ่งพาอยู่มาก 

นายสมคิด กล่าวว่า สำหรับหัวใจสำคัญ คือ ความร่วมพลังกันในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยความมั่นใจ ที่ผ่านมามีข้อสงสัยว่าเศรษฐกิจปีนี้ชะลอตัวปีหน้าจะยิ่งหนักมากขึ้นหรือเปล่า โดยมีคำถามว่าปีนี้เผาหลอก ปีหน้าจะเผาจริงหรือไม่ คำถามเหล่านี้ควรหมดไป โดยทุกคนต้องร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ก้าวไปข้างหน้า โดยปี 2563 เป็นปีที่จะมีความเสี่ยง แต่ก็มีโอกาสไทยจะก้าวต่อไปอย่างเข้มแข็ง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นร.หญิง ม.1 จมทะเลดับ หลังโรงเรียนพาไปทัศนศึกษาที่ระยอง

โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา พานักเรียนไปทัศนศึกษาที่ จ.ระยอง นักเรียนหญิง ม.1 ถูกคลื่นดูดลงทะเลขณะเล่นน้ำ เสียชีวิต พ่อแม่สุดเศร้าสูญเสียลูกสาวคนเดียวของครอบครัว

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่จมบาดาล น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

น้ำท่วมในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังวิกฤติ หลังน้ำในลำน้ำปิงขึ้นสูงสุดทรงตัวสูงกว่า 5.30 เมตร ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่มีการวัดระดับน้ำปิง

น้ำท่วมขนส่งเชียงใหม่กระทบผู้โดยสาร เปิดจุดจอดรับ-ส่งชั่วคราว

น้ำขยายวงกว้างเข้าท่วมสถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 2 และ 3 เต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงเกือบ 50 ซม. ผู้ประกอบการขนส่งต้องนำรถทัวร์โดยสารออกมาจอดรับ-ส่งบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ยืนยันผู้ประกอบการยังให้บริการตามปกติ

ระทึก! แท็กซี่พลิกคว่ำเกิดเพลิงไหม้ 5 ชีวิตรอดหวุดหวิด

รถแท็กซี่พลิกคว่ำและเกิดเพลิงลุกไหม้กลางถนนพระราม 9 ผู้โดยสารหญิงสติดีถีบประตูช่วยตัวเองและคนอื่นออกมาจากตัวรถรวม 5 ชีวิตได้ทัน แต่ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 1 คน เป็นคนขับแท็กซี่ ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุ

ข่าวแนะนำ

กต.ย้ำมีแผนพร้อมอพยพคนไทยในอิสราเอล-เลบานอน

กต.ประชุมประเมินสถานการณ์อิสราเอล-ฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ย้ำมีแผนอพยพพร้อม เผย 5 แรงงานไทยเตรียมเดินทางกลับ แนะประชาชนตัดสินใจก่อนน่านฟ้าปิด

เตรียมตั้ง 7 เตาไฟฟ้า พิธีพระราชทานเพลิงศพ นร.-ครู 23 คน

เตรียมพื้นที่ตั้ง 7 เตาไฟฟ้า กลางสนามโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ในพิธีพระราชทานเพลิงศพ นักเรียน-ครู 23 คน เหยื่อไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา วันที่ 8 ต.ค.นี้

เชียงใหม่ยังอ่วม เจอน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

แม้ระดับน้ำปิงที่ทะลักท่วมตัวเมืองเชียงใหม่เริ่มลดลง จากที่เคยขึ้นสูงสุดถึง 5.30 เมตร ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเท่าที่เคยวัดระดับมา จนทำให้เชียงใหม่เผชิญกับน้ำท่วมครั้งใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์ บ้านเรือนหลายพันหลังและย่านการค้ายังจมน้ำ บางจุดยังท่วมสูงกว่า 2 เมตร ยังต้องเร่งอพยพผู้คนออกจากพื้นที่น้ำท่วม หลายคนต้องใช้ชีวิตอยู่ในรถที่จอดบนสะพาน

ภาคกลางเริ่มกระทบ น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วมบ้านประชาชน

น้ำเจ้าพระยาล้นข้ามถนนเข้าท่วมบ้านกว่า 30 หลังคาเรือน ต.ชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ส่วนชุมชุนริมท่าน้ำปากเกร็ด เริ่มกระทบ