นครปฐม 24 ต.ค.- ความคืบหน้ากรณีหนุ่มแว่นหัวร้อนที่ด่ากราดคู่กรณีและคนไทยเมื่อวานนี้ ล่าสุด ตำรวจยังไม่ได้นำตัวชายคนดังกล่าวไปส่งฟ้องต่อศาลข้อหาดูหมิ่นซึ่งหน้าและทำร้ายร่างกาย แต่มีคนไปแจ้งความกองปราบฯ ให้เอาผิดตามมาตรา 112 ส่วนเมื่อคืนที่ผ่านมาเจ้าตัวและแม่ได้ยกมือไหว้ขอโทษสังคมแล้ว
คำขอโทษจากหนุ่ม “แว่น ซีวิค” หลังก่อเหตุตะโกนด่ากราดคนไทยและคู่กรณีที่ขับรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค เฉี่ยวชนกันย่านพุทธมณฑล จ.นครปฐม จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงความไม่เหมาะสม และมีผู้ดูคลิปวิดีโอมากกว่า 20 ล้านครั้งในรอบ 24 ชม.ที่ผ่านมา โดยเมื่อคืนตำรวจเรียกตัวชายคนดังกล่าวมาสอบปากคำและดำเนินคดีฐาน “ดูหมิ่นซึ่งหน้า” ซึ่งเจ้าตัวมาพร้อมกับครอบครัว และนำยารักษาอาการโรคซึมเศร้าแบบอารมณ์รุนแรงมาให้ตำรวจตรวจสอบ
ส่วนบริเวณภายนอก สภ.พุทธมณฑล เมื่อคืนที่ผ่านมา มีกลุ่มมวลชนจำนวนมากทยอยเดินทางมาปักหลักเพื่อติดตามสถานการณ์ ทำให้ตำรวจต้องวางกำลังดูแลโดยรอบเพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝัน หลังจากนั้นเมื่อเวลา 23.00 น. ตำรวจนำรถของ สภ.พุทธมณฑล ไปส่งครอบครัวของชายหนุ่มคนดังกล่าว ส่วนตัวหนุ่ม “แว่น ซีวิค” ต้องถูกควบคุมตัวไว้ก่อน เพื่อเตรียมส่งฟ้องศาลแขวงดำเนินคดี
ตำรวจยังไม่ส่งฟ้อง “แว่น ซีวิค” เร่งตรวจยาซึมเศร้า
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ สภ.พุทธมณฑล เพื่อติดตามคดี ล่าสุด ได้รับคำยืนยันจากรองผู้บังคับการตำรวจภูธรนครปฐมว่า ชายคนดังกล่าวยังอยู่ในการควบคุมของตำรวจและไม่สามารถเปิดเผยช่วงเวลาที่จะพาไปศาลได้ เพราะเกรงความไม่ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อ 2 หา คือ ดูหมิ่นซึ่งหน้า และทำร้ายร่างกายผู้อื่นไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ ส่วนเรื่องการดูหมิ่นและแอบอ้างต่างๆ อยู่ระหว่างการสอบสวน พร้อมเร่งตรวจสอบยาที่อ้างว่าเป็นยารักษาโรคซึมเศร้าว่าเป็นชนิดใด นอกจากนี้ มีข้อมูลว่า ระหว่างที่มีการสอบสวน หนุ่มแว่น ซีวิค มีอาการเครียดและกำมือ แต่ไม่ได้มีอาการเกรี้ยวกราดใดๆ
แจ้งความกองปราบฯ จับ “แว่น ซีวิค” ฐานหมิ่นเบื้องสูง
ส่วนความเคลื่อนไหวที่กองบังคับการปราบปราม มีนายราเชน ตระกูลเวียง ประธานสหพันธ์คนไทยปกป้องสถาบัน นำหลักฐานเป็นคลิปของหนุ่ม “แว่น ซีวิค” เข้าแจ้งความพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามมาตรา 112 ฐานหมิ่นสถาบันเบื้องสูง และหมิ่นประมาทคนไทยทั้งประเทศ โดยสาเหตุที่มาแจ้งความเพราะรับไม่ได้กับการกระทำ และไม่อยากให้เอาเป็นเยี่ยงอย่าง ส่วนข้อกล่าวอ้างที่ว่าป่วยซึมเศร้า มองว่าเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ เพราะหากป่วยจริงจะขับรถได้อย่างไร.-สำนักข่าวไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- หนุ่มแว่นหัวร้อน พกยาซึมเศร้าพบ ตร. ถูกแจ้งข้อหาดูหมิ่นซึ่งหน้า
- เปิดคลิปหนุ่มแว่นหัวร้อนด่ากราดคู่กรณี ลั่นไม่อยากเป็นคนไทย
- สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลซิงกิ แจงกรณีหนุ่มแว่นหัวร้อนจบนอก