ภูมิภาค 23 ต.ค.-ธ.ก.ส. เร่งจ่ายเงินประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2562/63 ครั้งที่ 1 ทั่วประเทศ ซึ่งมีเสียงตอบรับจากชาวนาต่างพึงพอใจ เพราะจะนำเงินก้อนนี้ไปช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายและลดต้นทุนผลิตข้าวได้
ภาพรอยยิ้มของชาวนาในอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ที่รับเงินจากโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2562/63 รอบที่ 1 เป็นหนึ่งในตัวอย่างของการทยอยจ่ายเงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ให้กับชาวนาทั่วประเทศ หลังจากรัฐบาลเริ่ม Kick Off จ่ายเงินส่วนต่างข้าวที่ราคาตลาดต่ำกว่าราคาประกันตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา
เช่นเดียวกับชาวนาในจังหวัดชัยนาทที่ได้รับเงินประกันต่างดีใจที่รัฐบาลให้ความสำคัญและให้ความช่วยเหลือ เพราะจะนำเงินที่ได้ไปจ่ายค่าปุ๋ย ค่าต้นทุนการผลิตอื่นๆ ที่ยังค้างร้านค้าอยู่ และหากมีเงินเหลือจะนำไปเป็นทุนสำหรับปลูกข้าวรอบใหม่ได้
การประกันรายได้ผู้ปลูกข้าวครั้งแรก ธ.ก.ส. ได้โอนเงินชดเชยให้กับชาวนาที่ปลูกข้าวเปลือก 2 ชนิด คือข้าวเปลือกเจ้า ตันละประมาณ 2,469 บาทและข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละประมาณ 783 บาท โดยเงินชดเชยทั้งหมดจะถูกโอนเข้าบัญชีชาวนาโดยตรง สามารถนำสมุดบัญชีไปปรับยอดหรือเบิกถอนได้ตามสาขาต่างๆ โดยมีชาวนากว่า 349,000 ครัวเรือน ได้เงินชดเชยรวมประมาณ 9,400 ล้านบาท ส่วนข้าวอีก 3 ชนิด คือ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ และข้าวเปลือกเหนียว อยู่ในเกณฑ์ราคาสูงเลยเพดานของราคาประกัน
โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2562/63 รอบที่ 1 ชาวนาที่จะได้รับเงินจะต้องขึ้นทะเบียนกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยเป็นเกษตรกรที่ปลูกข้าวระหว่างวันที่ 1 เมษายน-31 ตุลาคม 2562 (ยกเว้นภาคใต้ ระหว่างวันที่ 16 มิถุนายน-28 กุมภาพันธ์ 2563) และต้องแจ้งวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยว เพื่อใช้เป็นข้อมูลช่วงเวลาที่เกษตรกรจะได้รับสิทธิชดเชย โดยกรมส่งเสริมการเกษตรจัดส่งข้อมูลให้ ธ.ก.ส. เพื่อเป็นข้อมูลในการจ่ายเงิน จากนั้น ธ.ก.ส. จะจ่ายเงินเข้าบัญชีชาวนาโดยตรงภายใน 3 วัน.-สำนักข่าวไทย