ซีเรีย 16 ต.ค. – การรุกคืบของตุรกีเข้าสู่พื้นที่ทางตอนเหนือของซีเรีย ทำให้ประชาชนต้องอพยพละทิ้งบ้านเรือนแล้วกว่า 250,000 คน
องค์กรสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในซีเรีย ซึ่งมีฐานในอังกฤษเปิดเผยว่า นับตั้งแต่ตุรกีรุกคืบสู่พื้นที่ทางตอนเหนือของซีเรีย เพื่อกวาดล้างกองกำลังชาวเคิร์ดในพื้นที่เมื่อสัปดาห์ก่อน ได้ทำให้พลเรือนเสียชีวิตไปแล้วกว่า 70 คน และอีกกว่า 250,000 คน ต้องอพยพละทิ้งบ้านเรือน
ทหารตุรกีรุกสู่ซีเรียตั้งแต่วันพุธที่แล้วหลังสหรัฐถอนทหารออกจากพื้นที่และเข้าควบคุมเมือง รวมถึงหมู่บ้านบริเวณพรมแดน ขณะที่ล่าสุดกองกำลังชาวเคิร์ด ซึ่งเคยร่วมกับทหารสหรัฐในการกวาดล้างกองกำลังรัฐอิสลาม หรือไอเอสในพื้นที่ได้บรรลุข้อตกลงกับประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ผู้นำซีเรีย ในการผลักดันทหารตุรกีออกจากพื้นที่แล้ว ขณะที่ซีเรียก็เริ่มส่งทหารเข้าประจำการยังพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศแล้วเช่นกัน
สหรัฐและชาติยุโรปได้เรียกร้องให้ตุรกีหยุดการรุกคืบในทันที ขณะที่ประธานาธิบดีเรเจพ ทายยิพ แอร์โดอาน ผู้นำตุรกียืนกรานปฏิเสธ โดยระบุว่า ตุรกีจำต้องกวาดล้างองค์การก่อการร้ายทางตอนเหนือของซีเรีย และส่งกลับผู้อพยพชาวซีเรียจำนวน 3.65 ล้านคนกลับประเทศ.-