กระทรวงเกษตรฯ 4 ต.ค. – ผลประชุมคณะกรรมการนโยบายยางพาราอนุมัติโครงการประกันรายได้งบ 2.4 หมื่นล้าน พร้อมช่วยเกษตรกรยังขึ้นทะเบียนใช้สิทธิได้ และร่นเวลาจ่ายส่วนต่างให้เร็วขึ้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ ครั้งที่ 1/2562 ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมกรรมการฯและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณา 5 วาระ โดยเรื่องสำคัญ คือ หลังการประชุมซึ่งใช้เวลากว่า 3 ชม. โดยโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 1 มีมติ คืออนุมัติการประกันรายได้ยางพาราในยาง 3 ชนิด คือ ยางแผ่นดิบราคา 60 บาทต่อกิโลกรัม น้ำยางสด 57 บาทต่อกิโลกรัม และยางก้อนถ้วย 23 บาทต่อกิโลกรัม ของสวนยางที่มีอายุ 7 ปีขึ้นไป สูงสุดครัวเรือนละ 25 ไร่
ทั้งนี้ เกษตรกรต้องขึ้นทะเบียน โดยเกษตรกรที่ตกหล่นยังสามารถขึ้นทะเบียนได้ และคณะกรรมการระดับตำบลและการยางแห่งประเทศไทยจะต้องตรวจสอบว่าปลูกจริงหรือไม่ ยางชนิดไหน แล้วรายได้ส่วนต่างนั้นเจ้าของสวนยาง 1.4 ล้านราย ผู้กรีดยาง 300,000 รายโดยประมาณจะได้รับสิทธิ ซึ่งรัฐบาลใช้งบประมาณ 2.4 หมื่นล้านบาท จากนี้ก็จะนำมตินี้เสนอ ครม.เห็นชอบต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นชอบให้ตั้งคณะทำงาน 3 ฝ่าย ทั้งภาครัฐ เอกชน ตัวแทนเกษตรกร เพื่อหาแนวทางการสร้างสวนยางที่ยั่งยืน นอกจากนั้นจะเร่งรัดการส่งออกยางที่จีน และอินเดีย รวมทั้งมอบให้การยางแห่งประเทศไทยนำยางไปขายด้วย โดยสามารถร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ได้ และยังมีวาระเพื่อพิจารณาอื่น คือ การอนุมัติขยายวงเงินสินเชื่อและปรับปรุงวิธีการดำเนินงานโครงการสนับสนุนสินเชื่อผู้ประกอบการผลิตผลิตภัณฑ์ยาง วงเงินสินเชื่อ 15,000 ล้านบาท การอนุมัติขยายระยะเวลาดำเนินการโครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบกิจการ (ยางแห้ง) วงเงินสินเชื่อ 20,000 ล้านบาท การอนุมัติขยายระยะเวลาดำเนินการโครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่สถาบันเกษตรกรเพื่อรวบรวมยาง วงเงินสินเชื่อ 10,000 ล้านบาท การอนุมัติขยายระยะเวลาและปรับปรุงวิธีการดำเนินงานโครงการส่งเสริมการใช้ยางของหน่วยงานภาครัฐ
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติเปิดโอกาสให้คนที่ปลูกจริงและมีกรรมสิทธิ์มาขึ้นทะเบียนได้อยู่เพราะถือว่านโยบายประกันรายได้ยางเกิดขึ้นในรัฐบาลชุดนี้ การจ่ายเงินงวดแรกให้เร็วกว่าเดิมจากที่กำหนดไว้วันที่ 15 ธันวาคม 2562 ร่นมาเป็นระหว่างวันที่ 1-15 พฤศจิกายนนี้เนื่องจากโครงการประกันรายได้ยางพารายังต้องมีคณะกรรมการระดับตำบลเป็นผู้ตรวจสอบอีกชั้นหนึ่ง จะได้สามารถเทียบเคียงกับสินค้าเกษตรอื่นๆที่รัฐบาลประกันรายได้ และต้องปรับราคาอ้างอิงเป็นราคาก่อนหน้านี้ คือ ราคาระหว่างเดือนเมษายน 62 – กันยายน 2562 จากนั้นจ่ายงวดสอง 1-15 มกราคม 2563 งวดสาม 1-15 มีนาคม 2563โดยมีกระบวนการคือ กยท (การยางแห่งประเทศไทย) ต้องตรวจสอบความถูกต้อง เสร็จแล้วส่งผลให้ ธกส ซึ่งจะใช้เวลา 3 วันจะโอนเงินทันที ดังนั้น กยท ต้องตรวจสอบเสร็จภายในวันที่ 12 โดยในการเปลี่ยนแปลงเนื้อหามาตรการนี้ต้องให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ ก่อนนำเสนอบอร์ด ธกส เพื่อเห็นชอบก่อนภายใน 24-25 ตค.นี้
สำหรับโครงการประกันรายได้ยางพารา คือหนึ่งในโครงการประกันรายได้เกษตรกรในพืชเศรษฐกิจ 5 ชนิด คือ ปาล์ม ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่ได้แถลงต่อรัฐสภา โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การยางแห่งประเทศไทย ได้เสนอขออนุมัติโครงการ ประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 1 โดยขอให้สานักงานเศรษฐกิจการเกษตร เป็นฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) เสนอเรื่องดังกล่าวต่อ กนย.(คณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ) เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบวันนี้ ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไปในเร็วๆนี้ . – สำนักข่าวไทย