กทม.2 ต.ค.-ผอ.ศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ หนุนไทยคงมาตรการห้ามบุหรี่ไฟฟ้า เผยล่าสุดอินเดียประกาศห้าม หลังชาวสหรัฐฯ ป่วยตายจากบุหรี่ไฟฟ้าต่อเนื่อง พุ่งสูงกว่า15 คน ป่วยโรคปอด อย่างน้อย 805 คน
นพ.รณชัย คงสกนธ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) กล่าวว่า จากกรณีที่มีข่าวการป่วยและตายจากบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันยอดตายพุ่งสูงกว่า 15 คน ป่วยโรคปอดอย่างน้อย 805 คน โดยประเทศไทยมีมาตรการที่ดีเพื่อคุ้มครองสุขภาพคนไทยจากบุหรี่ไฟฟ้า คือห้ามนำเข้า ห้ามขาย และห้ามครอบครองบุหรี่ไฟฟ้า ขณะที่ในหลายประเทศต่างเริ่มกังวลกับปัญหาสุขภาพที่เกิดจากบุหรี่ไฟฟ้า เช่นล่าสุดประเทศอินเดียประกาศห้ามบุหรี่ไฟฟ้าตั้งแต่วันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา
นพ.รณชัย กล่าวต่อว่า นักวิชาการของอินเดียนำเสนอประเด็นข้อเท็จจริงถึงเหตุผลการห้ามบุหรี่ไฟฟ้าไว้ ที่สามารถตอบคำถามสังคมอินเดียและไทยได้ คือ 1.การที่กลุ่มบุหรี่ไฟฟ้ามักอ้างถึงรายงานของอังกฤษ เมื่อวันที่ 19 ส.ค.2558 ที่ระบุว่าบุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยกว่าบุหรี่ร้อยละ 95 ซึ่งงานวิจัยชิ้นนี้ไม่มีหลักฐานทางคลินิกและระบาดวิทยา แต่เป็นแบบจำลองกึ่งสมมุติฐานและเป็นเพียงการคาดเดา โดยเป็นแค่ความคิดเห็นของผู้เขียน 12 คน ซึ่ง1ใน 3 ประกาศชัดเจนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยาสูบ
2.เหตุผลที่ไม่ควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าเหมือนบุหรี่ เพราะบุหรี่ไฟฟ้ากำลังช่วยอุตสาหกรรมยาสูบหานักสูบหน้าใหม่เพื่อนำไปสู่การเสพติดนิโคติน ซึ่งการเพิ่มการเสพติดใหม่จะยิ่งทำให้สถานการณ์ของอินเดียแย่ลงเท่านั้น และ 3.อินเดียไม่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพื่อการเลิกบุหรี่ เพราะร้อยละ 80 ของผู้ที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าในการเลิกบุหรี่ยังคงติดนิโคตินเช่นเดิม ซึ่งนิโคตินเป็นสารเคมีที่เป็นอันตรายและอาจก่อมะเร็ง ที่สำคัญประสบการณ์จากสหรัฐอเมริกาชัดเจนว่าบุหรี่ไฟฟ้าทำให้เยาวชนเสพติด
นพ.รณชัย กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ ศจย.ได้ส่งข้อเสนอเชิงนโยบายสนับสนุนคงมาตรการห้ามนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าแก่กระทรวงพาณิชย์แล้ว โดยเชื่อมั่นว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเคยได้รับรางวัล World No Tobacco Day Awards จากองค์การอนามัยโลกเมื่อปี 2554 ย่อมตระหนักถึงภัยบุหรี่ไฟฟ้าที่คุกคามสุขภาพของประชาชนไทยแน่นอน .-สำนักข่าวไทย