กรุงเทพฯ 30 ก.ย. – สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เริ่มกลับมาส่งผลกระทบในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล อีกครั้ง ล่าสุดวันนี้ กรมควบคุมมลพิษ รายงานปริมาณ PM 2.5 เกินเกณฑ์มาตรฐาน 33 สถานี
ที่ จ.สมุทรสาคร เช้านี้ สภาพอากาศโดยทั่วไปบนถนนพระราม 2 อ.เมือง มีหมอกควันสลัวๆ ปกคลุมไปทั่ว วัดค่า PM 2.5 เมื่อเวลาประมาณ 08.30 น. อยู่ที่ 56 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร) เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ส่วนที่ ถ.เพชรเกษม ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน วัดค่าได้ 65 มิลลิกรัม/ลูกบาศก์เมตร เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพเช่นกัน
กรมควบคุมมลพิษ ตรวจสอบคุณภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล วันนี้ (30 ก.ย.) พบว่า ปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 เกินเกณฑ์มาตรฐาน 33 สถานี
ในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้แก่ เขตบางขุนเทียน เขตปทุมวัน เขตธนบุรี เขตวังทองหลาง เขตดินแดง เขตสัมพันธวงศ์ เขตพญาไท เขตบางรัก เขตสาทร เขตบางคอแหลม เขตยานนาวา เขตจตุจักร เขตคลองสาน เขตบางกอกน้อย เขตภาษีเจริญ เขตคลองเตย เขตบางซื่อ เขตหลักสี่ เขตบางเขน เขตบึงกุ่ม เขตบางพลัด และบริเวณ ถ.สิรินธร
จ.นนทบุรี บริเวณ อ.บางกรวย และ อ.ปากเกร็ด
จ.ปทุมธานี บริเวณ อ.คลองหลวง
จ.สมุทรปราการ บริเวณ อ.พระประแดง และ อ.เมือง
จ.สมุทรสาคร บริเวณ อ.กระทุ่มแบน และ อ.เมือง
จ.นครปฐม บริเวณ อ.เมือง
สาเหตุเนื่องจากสภาพอากาศ ที่กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า ช่วงเช้าลมสงบ ความชื้นสูง เกิดการผกผันกลับของอุณหภูมิในช่วงเช้า ประกอบกับระยะนี้มีฝนตกน้อยลง เป็นระยะที่กำลังเปลี่ยนฤดูกาล (transition) จึงทำให้ฝุ่นละอองสะสมเพิ่มขึ้น
กระทรวงสาธารณสุข ย้ำเตือนให้ประชาชนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงทางสุขภาพที่จะได้รับผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5 ได้แก่ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว ในพื้นที่ที่ฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน ควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรม หรือออกกำลังกายกลางแจ้ง หากจำเป็นต้องออกนอกบ้านเป็นเวลานาน ควรสวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันฝุ่นละออง รวมถึงป้องกันโรคติดต่อในระบบทางเดินหายใจ ซึ่งเป็นไปตามหลักการป้องกันไว้ก่อน. – สำนักข่าวไทย