เปิดดัชนีความยากจนในเด็กของประเทศไทย

กรุงเทพฯ 11 ก.ย.-สภาพัฒน์-ยูนิเซฟ เผยเด็ก 1ใน 5 คนในประเทศไทยกำลังเผชิญความยากจนหลายมิติ ส่วนใหญ่อยู่ในเขตชนบท ภาคอีสานสูงสุด ตามด้วยภาคเหนือ และ กทม.น้อยที่สุด 


วันนี้ (11ก.ย.) สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ และองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย แถลงผลการศึกษาล่าสุดด้านความยากจนหลายมิติของเด็ก พบว่า ในประเทศไทยมีเด็กประมาณ 1 ใน 5 หรือร้อยละ 22 กำลังเผชิญกับความยากจนในหลายมิติ โดยเฉพาะในด้านสุขภาพและการศึกษา ส่วนใหญ่เป็นเด็กที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบท  โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นพื้นที่ที่มีสัดส่วนความยากจนหลายมิติของเด็กสูงสุด


ประเทศไทยถือเป็นประเทศแรกๆของโลกที่มีการใช้ดัชนีชี้วัดความยากจนหลายมิติของเด็ก (Child Multidimensional Poverty Index หรือ Child MPI)  ซึ่งสภาพัฒน์และยูนิเซฟได้ร่วมกันพัฒนาดัชนีชี้วัดนี้ โดยได้รับการสนับสนุนทางด้านวิชาการจากโครงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และแก้ไขความยากจนแห่งมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด (Oxford Poverty and Human Development Initiative – OPHI) 

การใช้ดัชนีชี้วัดความยากจนหลายมิติของเด็กไม่ได้นำมิติด้านการเงินของครัวเรือนมาวิเคราะห์ แต่นำมิติอื่นๆของเด็ก ได้แก่ มิติด้านการศึกษา มิติด้านสวัสดิภาพเด็ก มิติด้านมาตรฐานความเป็นอยู่ และมิติด้านสุขภาพ อันเป็น 4 ประเด็นสำคัญเร่งด่วนของประเทศมาวิเคราะห์ โดยใช้ข้อมูลจากการสำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทยในปี พ.ศ. 2558-2559

ผลการศึกษาชิ้นนี้ชี้ให้เห็นว่าเด็กยากจนหลายมิติส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเขตชนบท คิดเป็นร้อยละ 23 ขณะที่เด็กที่ยากจนหลายมิติที่อยู่ในเขตเมืองมีสัดส่วนอยู่ที่ร้อยละ 19 และเมื่อพิจารณาตามภูมิภาค พบว่าภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือเป็นพื้นที่ที่มีสัดส่วนความยากจนหลายมิติของเด็กสูงสุด ตามมาด้วยภาคเหนือ ขณะที่กรุงเทพมหานครมีระดับความยากจนหลายมิติของเด็กน้อยที่สุด


งานศึกษาชิ้นนี้ยังพบว่า จ.แม่ฮ่องสอนและ จ.ตาก เป็น 2 จังหวัดที่เผชิญกับความยากจนในระดับที่รุนแรงที่สุด (หมายความว่า ต้องเผชิญกับความยากลำบากในหลากหลายด้านมากที่สุด) นอกจากนี้ยังชี้ให้เห็นว่า เด็กในแต่ละภูมิภาคประสบความยากจนในมิติที่แตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น ใน จ.สตูล ความยากไร้ด้านการศึกษาของเด็กเป็นปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิดความยากจนในเด็ก ในขณะที่เด็กในภาคตะวันออกเฉียงเหนือกลับเผชิญความยากลำบากในมิติที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพมากที่สุด

นอกจากนี้ยังพบว่าหากหัวหน้าครัวเรือนมีการศึกษาในระดับที่ต่ำ เด็กในครัวเรือนนั้น ๆ  มีแนวโน้มที่จะเผชิญความยากจนหลายมิติด้วยเช่นกัน ความยากจนหลายมิติยังแตกต่างในแต่ละกลุ่มอายุของเด็กอีกด้วย โดยพบว่าร้อยละ 42 ของเด็กอายุ 0-4 ปีเผชิญกับความยากจนหลายมิติ ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงกว่าช่วงอายุอื่น ขณะที่กลุ่มวัยรุ่น (15-17ปี) เป็นกลุ่มที่ประสบกับความความยากจนหลายมิติในระดับที่รุนแรงที่สุด

การศึกษาครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่าความยากจนในเด็กในประเทศไทยลดลงอย่างมากในระหว่างพ.ศ. 2548-2559 ทั้งในสัดส่วนของเด็กยากจนและระดับความรุนแรงของความยากจน สะท้อนให้เห็นความก้าวหน้าของประเทศไทยในการแก้ปัญหาความยากจนในเด็ก อย่างไรก็ดีประเทศไทยยังคงต้องเร่งพัฒนาความเป็นอยู่ของเด็ก เพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพในอนาคต โดยเฉพาะในภาวะที่ประเทศไทยเป็นสังคมสูงวัย

นายโธมัส ดาวิน ผู้แทนองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย กล่าวว่า การวัดความยากจนหลายมิติในเด็ก เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยทำให้แน่ใจว่าเราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังตามบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน การศึกษาครั้งนี้ทำให้ได้ข้อมูลเจาะลึกที่สำคัญ ที่ระบุว่าใครคือกลุ่มเด็กที่เปราะบางที่สุด โดยพิจารณาจากมิติอื่นๆ เช่น การศึกษาและสุขภาพ ข้อมูลเหล่านี้คือจุด เริ่มต้นที่จะนำไปสู่การพัฒนานโยบายและการกำหนดงบประมาณที่เหมาะสม ยูนิเซฟมุ่งมั่นจะทำงานร่วมกับภาคีต่างๆ ที่จะสร้างความเข้มแข็งด้านโยบายเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีเด็กคนใดในประเทศไทยที่ตกอยู่ในความยากจนในทุกมิติ 

ผลการศึกษาด้านความยากจนหลายมิติของเด็กนี้ จะช่วยลดสัดส่วนเด็กยากจนในประเทศไทยทั้งหมดได้อย่างรวดเร็ว  หากได้รับการพัฒนาและต่อยอดให้สอดคล้องกับความต้องการของเด็ก โดยเฉพาะกลุ่มเด็กยากจน โดยจะมีการจัดทำการศึกษานี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลการศึกษาครั้งถัดไปจะเกิดขึ้นอีกครั้งในปลายปี 2563 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ในหลวงทรงรับคนไข้

ในหลวงทรงรับคนไข้เหตุแผ่นดินไหวไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์

ในหลวงทรงรับคนไข้เหตุแผ่นดินไหวเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ขณะนายกรัฐมนตรีเยี่ยมผู้บาดเจ็บ แพทย์แจงอาการดีขึ้นแล้ว

Building after collapses in Myanmar in front of monk's eye

แผ่นดินไหวทำตึกเมียนมาถล่ม-ยอดตายเกินพันแล้ว

มัณฑะเลย์ 29 มี.ค.- แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในเมียนมาเมื่อวานนี้ ทำให้อาคารหลังหนึ่งถล่มต่อหน้าต่อตากลุ่มพระสงฆ์ที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตในเมียนมาจนถึงขณะนี้เกิน 1,000 คนแล้ว คลิปภาพที่ผู้เห็นเหตุการณ์บันทึกไว้ได้ในเมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของเมียนมา และอยู่ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหวบนบกที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ เห็นกลุ่มพระสงฆ์รวมตัวกันอยู่บนถนนใกล้อาคารหลังหนึ่งที่ค่อย ๆ เสียการทรงตัว ก่อนพังถล่มลงไปทั้งหลังต่อหน้าต่อตา ทำให้เกิดกลุ่มควันขนาดใหญ่ฟุ้งกระจาย รอยเตอร์รายงานเมื่อเวลา 13:00 น.วันนี้ตามเวลาไทยว่า รัฐบาลเมียนมาแถลงล่าสุดว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวเพิ่มเป็น 1,002 คนแล้ว ขณะที่สำนักสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐหรือยูเอสจีเอส ซึ่งแจ้งขนาดแผ่นดินไหวไว้ที่ 7.7 และมีศูนย์กลางลึกเพียง 10 กิโลเมตรประเมินจากแบบจำลองการคาดการณ์ว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจจะเกิน 10,000 คน.-814.-สำนักข่าวไทย  

สาเหตุตึกถล่ม

นายกฯ เร่งกรมโยธาดูสาเหตุตึกถล่ม-หาทางแก้

นายกฯ รับรายงายสถานการณ์แผ่นดินไหว เร่งกรมโยธาดูสาเหตุ-หาทางแก้ตึกถล่ม ย้ำ ปชช. มั่นใจได้ เหตุแผ่นดินไหวตอนนี้ไม่กระทบไทยแล้ว เตรียมออกมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบต่อไป

วัดเสียหายแผ่นดินไหว

วัด 4 แห่งในตัวเมืองเชียงใหม่ ได้รับผลกระทบแผ่นดินไหว

สำนักงานพระพุทธศาสนา และคณะสงฆ์เชียงใหม่ สำรวจโบราณสถาน พบวัด 4 แห่งในตัวเมืองเชียงใหม่ ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว มีทั้งรอยร้าว ฐานพระพุทธรูปอายุกว่า 700 ปีทรุด ยอดฉัตรทองคำหักเอียง