กรุงเทพฯ 7 ก.ย.- “จุติ ไกรฤกษ์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและมั่นคงของมนุษย์ เยี่ยมแม่ขโมยเงินทำบุญกฐิน 160 บาทในห้างซื้อข้าวให้ลูกกิน สั่งหน่วยงานติดตามช่วยเหลือ
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์เรื่องราวสุดสะเทือนใจ เกี่ยวกับกรณีหญิงอายุ 54 ปี ถูกห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งแจ้งความ เพราะขโมยเงินทำบุญกฐิน 160 บาท ที่เสียบไม้ไว้ เพื่อนำเงินไปซื้อข้าว ซื้อนม ให้ลูก 2 คนกิน เนื่องจากรายได้ที่มีอยู่จากการรับจ้างล้างจานในร้านฟาสต์ฟู้ดที่ได้รับวันละ 300 บาท ไม่เพียงพอต่อรายจ่ายในแต่ละวัน และต้องติดคุก 1 คืน ลูก 2 คนต้องมานั่งเฝ้าแม่ที่สถานีตำรวจ จนเกิดเป็นกระแสในโลกโซเชียล
ล่าสุดนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์นำเจ้าหน้าที่มาตรวจเยี่ยมและพูดคุยกับ น.ส.มิ่งขวัญ (สงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี ผู้ที่ก่อเหตุดังกล่าว และบุตรทั้งสองคนที่ธัญนีอพาร์เมนต์ ซอยอินทามระ 29 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท เพื่อสอบถามความเป็นอยู่ และหารือแนวทางให้การช่วยเหลือในด้านต่างๆ แก่ครอบครัวของ น.ส.มิ่งขวัญ พร้อมกล่าวว่า จากการพูดคุยเบื้องต้น พบว่าครอบครัวนี้ค่อนข้างประสบปัญหาด้านการเงิน โดยลูกทั้งสองคนจะได้รับเงินเป็นค่ารถไปโรงเรียนวันละ 20 บาทต่อคน หากวันไหนแม่ไม่มีเงิน เด็กทั้งสองคนก็จะต้องเดินเท้าไปโรงเรียน ซึ่งอยู่ห่างจากที่พักพอสมควร ซึ่งในส่วนของการช่วยเหลือก็จะสั่งการให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาคอยติดตามให้การช่วยเหลือ หลักๆ จะเน้นไปเรื่องของการหาอาชีพเสริมให้กับผู้ปกครองของเด็กทำเพื่อจะได้มีรายได้เพิ่มขึ้น เพราะการช่วยเหลือนั้นหลักๆ จะเน้นไปที่การช่วยให้เขาได้มีโอกาสยืนด้วยตนเองได้
นอกจากการช่วยเหลือในส่วนของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์แล้ว ยังมีผู้ใจบุญคือ นายธนวัฒน์ ปัญญาสกุลวงศ์ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และเป็นหนึ่งในอาสาคณะทำงานของตน เสนอตัวขอให้การช่วยเหลือเป็นการส่วนตัว โดยจะสนับสนุนเงินช่วยเหลือเดือนละ 3,000 บาท และช่วยเหลือด้านทุนการศึกษา เพื่อให้เด็กมีโอกาสเรียนหนังสือสูงๆ และเชื่อว่าด้วยศักยภาพของนายธนวัฒน์ ผู้ใจบุญรายนี้จะสามารถส่งเสียน้องๆ ทั้งสองคนได้ จนถึงระดับปริญญาตรี แต่ทั้งนี้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวเด็กด้วย แต่จากการพูดคุยเบื้องต้น พบว่าเด็กทั้งสองคน เป็นเด็กเรียนดี เกรดเฉลี่ยประมาณ 3 กว่า
ด้าน น.ส.มิ่งขวัญ กล่าวทั้งน้ำตา ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เข้ามาช่วยเหลือ ที่ผ่านมายอมรับว่า ครอบครัวลำบากมาก ต้องอดมื้อกินมื้อ ตอนนี้ก็ค้างค่าเช่าห้อง 2 เดือน บางวันไม่มีเงินค่ารถเมล์ไปทำงานก็ต้องเดิน ระยะทาง 5-6 กิโลเมตร ไม่เคยขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐ เนื่องจากมีข้อจำกัดหลายอย่าง ประกอบกับตนเองก็มีโรคประจำตัวเป็นโรคเก๊าท์ บางครั้งขอความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมงานได้บ้างไม่ได้บ้าง วันเกิดเหตุลูกสาวมาบอกว่าหิวข้าว แม่มีเงินไหม ตอนนั้นตนไม่มีติดตัวเลยสักบาท จะไปยืมใครก็ไม่ให้ยืมแล้ว เพราะแต่ก่อนเคยไปยืมเงินเค้า แล้วเราก็คืน จากนั้นเราก็ยืมใหม่ จนตอนนี้เค้าไม่ให้เรายืมเลย เราไม่รู้จะทำยังไง เพราะเห็นลูกหิว สงสารลูกมาก เลยไปที่ห้างไปหาหลวงพ่อ เห็นถังทอดกฐินตั้งอยู่ ตนก็ไหว้หลวงพ่อแล้วขอยืมเงินหน่อย หยิบมา 60 บาท ตอนนั้นแบงก์ร้อยก็หล่นมา เลยหยิบเข้ากระเป๋ามาด้วย แต่พนักงานห้างเห็น จึงจับคอเสื้อแล้วล็อกเราไว้ บอกว่าเราเป็นขโมย แล้วจะบอกกับทางเจ้าของห้าง ซึ่งเราบอกว่าไม่ได้ขโมย แค่ยืมแล้วเราก็คืนตลอด ทำแบบนี้มา 3 ครั้งแล้ว ครั้งนี้ครั้งที่ 3 เพราะทนเห็นลูกหิวไม่ได้ ที่ผ่านมาก็คืนเงินตลอด แต่ไม่มีใครเชื่อ เลยโดนจับส่งตำรวจ ตอนนี้กังวลเกรงว่าจะไม่ได้ทำงาน เพราะหลังเกิดเรื่อง นายจ้างได้เรียกไปคุย และให้หยุดงานชั่วคราว.-สำนักข่าวไทย