เตรียมฝากขัง “มูฮัมมัดอัลฮิม สะอิ” เอี่ยวคดีระเบิดป่วนเมือง

กรุงเทพฯ 3 ก.ย.- ตำรวจเร่งสอบสวน “มูฮัมมัดอัลฮิม สะอิ ” ผู้ต้องหาคดีระเบิดหลายจุดในพื้นที่กรุงเทพฯ และนนทบุรี หลังถูกควบคุมตัวมาสอบสวนต่อที่กองปราบปรามตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ก่อนนำตัวไปขออำนาจศาลฝากขังอย่างช้าไม่เกินวันพรุ่งนี้


หลังจากที่เมื่อคืนที่ผ่านมา( 2 ก.ย.) ตำรวจชุดคลี่คลายคดีระเบิด ได้ควบคุมตัวนายมูฮัมมัดอัลฮิม สะอิ หรือ แบลี ผู้ต้องหาในคดีวางระเบิด 18 จุด ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และนนทบุรี เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จากจังหวัดนราธิวาสส่งให้ตำรวจกองบังคับการปราบปราม รับไปดำเนินการสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

เช้าวันนี้ (3 ก.ย.) ตำรวจกองปราบได้เร่งดำเนินการสอบสวนตามขั้นตอนพร้อมนำพยานไปชี้ตัวยืนยันตัวผู้ต้องหา ก่อนแจ้งข้อกล่าวหาฐานเป็นอั้งยี่ซ่องโจร / มีวัตถุระเบิดไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต / ใช้วัตถุระเบิดโดยไม่ได้รับอนุญาต / พยายามฆ่าผู้อื่น และทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งเป็นข้อหาตามที่ถูกออกหมายจับ ก่อนนำตัวไปขออำนาจศาลพิจารณารับฝากขังตัวชั่วคราว พร้อมยื่นคัดค้านการประกันตัว อย่างช้าไม่เกินวันพรุ่งนี้ ซึ่งเบื้องต้น นายแบลี ยังคงยืนยันให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ส่วนข้อหาฐานก่อการร้าย ยังต้องรอผลการตรวจพิสูจน์หลักฐานต่างๆ ในที่เกิดเหตุ ทั้งที่ภาคใต้ / กรุงเทพฯ และนนทบุรี 


ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่า นายแบลี เคยมีประวัติพบความเกี่ยวข้องกับคดีโจมตีฐานนาวิกโยธิน ในจังหวัดนราธิวาส เมื่อปี 2556 ซึ่งขณะนั้นฝ่ายความมั่นคง พบเสื้อผ้าคล้ายชุดที่กลุ่มผู้ก่อเหตุลงมือ อยู่ในรถยนต์คันหนึ่ง ซึ่งได้เรียกเจ้าของรถมาทำประวัติและปล่อยตัวไป 

ส่วนคดีระเบิดในพื้นที่กรุงเทพฯ และนนทบุรี พบว่าผู้ต้องหาที่ก่อเหตุมีประวัติเรียนจบการศึกษาที่มหาวิยาลัยย่านรังสิต และรู้จักกับพยานที่เป็นนักศึกษาที่ให้ยืมรถจักรยานยนต์ไปใช้ ก่อนที่จะเกิดเหตุระเบิด นอกจากนี้ ยังพบหลักฐานการสั่งซื้ออุปกรณ์ที่นำไปใช้ในการประกอบระเบิด ที่นำไปผลิตเป็นระเบิดแสวงเครื่อง 9 ลูก ที่เช่าที่พักไว้ในซอยรามคำแหง 53 เขตหัวหมาก ก่อนส่งมอบให้มือระเบิดแต่ละชุดนำไปก่อเหตุ และผลการเปรียบเทียบลายพิมพ์นิ้วมือ ยังตรงกับระเบิดที่เจ้าหน้าที่ EOD กู้ได้จากที่หน้ากองบัญชาการกองทัพไทย เมื่อวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมาด้วย

สำหรับการติดตามตัวผู้ก่อเหตุรายอื่นๆ หลังศาลอนุมัติหมายจับไปแล้ว 14 คน และจับกุมได้ 3 คน ฝ่ายสืบสวนยังอยู่ระหว่างการเฝ้าระวัง และเฝ้าติดตามเบาะแสของคนร้ายขบวนการนี้ โดยตัวการสำคัญ มีข้อมูลว่าได้หลบหนีไปกบดานในต่างประเทศแล้ว ซึ่งเรื่องนี้คณะคลี่คลายคดีระเบิดฯ ได้หารือร่วมกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแล้ว และอยู่ระหว่างการพิจารณาประสานขอความร่วมมือให้ทางการประเทศเพื่อนบ้าน ช่วยติดตามส่งตัวผู้ต้องหารายสำคัญมาดำเนินคดีตามกฎหมายในไทยต่อไป .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

เรือใบอิตาลีที่สวยงามที่สุดในโลกเดินทางถึงภูเก็ตแล้ว

ภูเก็ตคึกคัก เรือใบอิตาลีที่ขึ้นชื่อว่างดงามที่สุดลำหนึ่งของโลก ออกเดินทางมาแล้วรอบโลก ได้เข้าจอดเทียบท่าจังหวัดภูเก็ต โดยมีทัพเรือภาคที่ 3 ให้การต้อนรับทหารเรืออิตาลีกว่า 150 นาย อย่างอบอุ่นพร้อมเปิดให้ประชาชนขึ้นชมเรือฟรีได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (6 พ.ย.)

พระเปย์สีกา ช่องโหว่ผลประโยชน์ในดงขมิ้น

รองเจ้าอาวาสวัดชื่อดังแห่งหนึ่งในมหาสารคาม ขอลาสิกขากลางดึก หลังถูกแฉ เป็นพระปลัดใจป๋า เปย์สีกาไม่อั้น ขณะที่รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สั่งตรวจสอบว่า เป็นเงินส่วนตัว หรือ เงินวัด เพราะจะมีความผิดแตกต่างกัน

“สันธนะ” เปิดใจหลังเคลียร์ใจ “ชูวิทย์” กลับไทยขึ้นศาล

“สันธนะ” เผย นอนคิดมา 1 คืนเริ่มใจอ่อนรับคำขอโทษ “ชูวิทย์” รับรู้ถึงความจริงใจ แต่คดีอาญาถอนฟ้องไม่ได้ ต้องปล่อยไปตามกฎหมาย