ขอนแก่น 27 ส.ค.- ผู้อำนวยการโรงเรียน เชิญผู้ปกครองและนักเรียน ชี้แจงทำความเข้าใจกรณีครูโพสต์เอาน้ำปัสสาวะให้นักเรียนดื่ม ยืนยันเป็นน้ำสมุนไพรที่อาจารย์ทำขึ้น พร้อมสาธิตวิธีการทำ และนำตัวอย่างน้ำที่ให้เด็กดื่มตรวจพิสูจน์ว่ามีส่วนผสมปัสสาวะหรือไม่
ความคืบหน้ากรณี “หมอแล็บแพนด้า” โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับครูโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ จ.ขอนแก่น โพสต์ข้อความระบุว่า เป็นครูประถมต้นทำน้ำปัสสาวะกลั่นสมุนไพรนำไปไว้ประจำที่โรงเรียน เวลาเด็กไม่สบาย เขาจะมาขอยากับเรา เราไม่ใช่ฝ่ายพยาบาล ไม่มียา เราเลยเอาน้ำปัสสาวะกลั่นให้เด็กกินผสมน้ำครึ่งส่วน แล้วหายเป็นปกติ
นายนิยม โพธิ์งาม รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษาขอนแก่น เขต 3 นายกวี วรรณศรี ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านโจดหนองแกหนองสิม อ.พล จ.ขอนแก่น เชิญผู้ปกครอง พร้อมนักเรียน 7 คน ที่มีข้อมูลว่าดื่มน้ำของคุณครูท่านหนึ่ง ที่ก่อนหน้านี้ระบุว่าเป็นน้ำที่มีส่วนผสมของปัสสาวะ เพื่อทำความเข้าใจให้ผู้ปกครองได้ทราบข้อมูลข้อเท็จจริง และเพื่อให้เกิดความเข้าใจระหว่างผู้ปกครองกับโรงเรียน
ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านโจดหนองแกหนองสิม บอกว่า เมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมการจัดการศึกษาลงพื้นที่สอบถามข้อมูลกับนักเรียนและครูแล้ว ซึ่งครูก็ยืนยันแล้วว่า น้ำที่นำให้นักเรียนดื่มนั้นเป็นน้ำสมุนไพร ซึ่งมีส่วนผสมของใบเตย ย่านาง ใบเบญจรงค์ ซึ่งมีฤทธิ์เย็น เมื่อเด็กนักเรียนที่มีอาการตัวร้อนหรือไม่สบาย ดื่มแล้วจะมีอาการดีขึ้น ซึ่งรสชาติและกลิ่นก็เหมือนดื่มน้ำใบเตย
โดยครูสาธิตวิธีการทำ ด้วยการนำหม้อนึ่งใส่น้ำและใส่สมุนไพรลงไปต้ม นำถ้วยเปล่าไปรองในหม้อ จากนั้นนำกระทะที่ใส่น้ำเย็นไว้ด้านบน มาปิดปากหม้อนึ่ง เมื่อเกิดความร้อนไอน้ำต้มสมุนไพร จะไปเกาะที่ก้นกระทะด้านบนและหยดลงมาใส่ถ้วย แล้วก็จะได้น้ำสมุนไพรที่มีสีใสตามที่ครูยืนยัน
โรงเรียนไม่ได้นำน้ำปัสสาวะให้เด็กนักเรียนดื่ม แต่ที่ครูโพสต์นั้น เป็นความคิดเห็นส่วนตัว และเป็นการอวดอ้างในกลุ่มเฉพาะเท่านั้น ขณะที่โรงเรียนก็มีห้องพยาบาลที่มียารักษาโรคสำหรับเด็กนักเรียนอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องผลิตน้ำยาสมุนไพรหรือตัวยาอื่นให้นักเรียนกิน ส่วนเรื่องที่ครูผลิตน้ำสมุนไพร ก็เป็นความเชื่อและความเข้าใจส่วนบุคคลเท่านั้น จึงสั่งการไม่ให้ผลิตเพื่อนำไปให้นักเรียนดื่มเด็ดขาด ส่วนตัวอย่างน้ำดื่มชุดเดียวกันกับที่ให้เด็กดื่ม เจ้าหน้าที่เก็บตัวอย่าง และนำส่งโรงพยาบาลหนองสองห้องตรวจพิสูจน์ว่า มีส่วนผสมของน้ำปัสสาวะจริงหรือไม่.-สำนักข่าวไทย