รัฐสภา 22 ส.ค. – รัฐมนตรีพาณิชย์รับเรื่องวิกฤติอุตสาหกรรมเหล็กไทย เตรียมหามาตรการลดผลกระทบ พร้อมสั่งเร่งรัดกฎหมายลูกให้บังคับใช้เร็วขึ้น
นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กไทย มาเข้าพบ ที่รัฐสภา ประกอบด้วยสมาคมการค้าผู้ผลิตเหล็กแผ่นเคลือบสังกะสี สมาคมผู้ผลิตท่อโลหะและแปรรูปเหล็กแผ่น สมาคมผู้ผลิตเหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน สมาคมผู้ผลิตเหล็กทรงยาวด้วยเตาอาร์ตไฟฟ้า สมาคมเหล็กแผ่นรีดเย็นไทย สมาคมเหล็กแผ่นรีดร้อนไทย และสมาคมโลหะไทย ทั้งนี้ ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อหารือ เกี่ยวกับอุตสาหกรรมเหล็กไทยและมาตรการแก้ไข รวมทั้งการดำเนินงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและแจ้งถึงผลกระทบต่อผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเหล็กไทยสาเหตุของวิกฤตอุตสาหกรรมเหล็กไทย ที่ประชุมประกอบการรายงานว่า การกำหนดมาตรการในการแก้ไขปัญหาของอุตสาหกรรมเหล็กไทยในปัจจุบันที่มีปัญหาเรื่องโอเวอร์ ซัพพลาย Over Supply ในเหล็กบางประเภท และปัจจุบัน จนถึงขั้นวิกฤตจากสาเหตุต่าง ๆ อาทิ ประเทศจีน ที่ดำเนินนโยบายช่วยอุดหนุนอุตสาหกรรมเหล็ก (China Subsidy) ในประเทศจำนวนมาก ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตต่ำกว่าความเป็นจริง การเข้ามาขยายตลาดในประเทศไทยของประเทศจีนและอินเดีย รวมถึงปัจจัยทางด้านสงครามทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา และมาตรการเซฟการ์ดของอียู (EU Safeguard) กับสินค้าเหล็ก 28 รายการ ปัจจัยทั้งหมดนี้จึงส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศ ที่กำลังการผลิตมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ได้รับทราบปัญหาต่างๆแล้ว และพร้อมจะดำเนินการเร่งรัดโดยเฉพาะประเด็นความล่าช้าของกฏหมายคือพระราชบัญญัติตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุน ปี 2542 ที่อยู่ระหว่างการปรับแก้ไขเป็นฉบับปี 2562 ให้พร้อมใช้ตามกำหนดภายในเดือนพฤศจิกายน 2562 นี้ รวมถึงการปรับแก้กระบวนการต่าง ๆ ให้มีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เพื่อปกป้องผู้ประกอบการในประเทศให้มีเครื่องมือในการต่อสู้กับมาตรการการทุ่มตลาดจากต่างประเทศ
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมเหล็กถือเป็นอุตสาหกรรมพื้นฐานที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก มีมูลค่าการลงทุนในอุตสาหกรรมรวมสองแสนกว่าล้านบาท มีผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิก 472 บริษัท และมีการจ้างงานรวมกันกว่าแสนราย ปัจจุบันไทยถูกจัดว่าเป็นผู้นำเข้าสุทธิรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา ปี 2561 ไทยมีปริมาณการบริโภคสินค้าเหล็ก 19.3 ล้านตัน เป็นสินค้าที่ผลิตในประเทศเพียง 7.3 ล้านตัน อุตสาหกรรมในประเทศมีการใช้อัตรากำลังการผลิตเพียงร้อยละ 38 เท่านั้น โดยกระทรวงพาณิชย์จะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรมดังกล่าวต่อไป . – สำนักข่าวไทย