“สมคิด” เร่งรัฐวิสาหกิจลงทุน 1.3 แสนล้านบาท

ก.คลัง 7 ส.ค. – รองนายกรัฐมนตรีเร่งรัฐวิสาหกิจลงทุน 1.3 แสนล้านบาท ช่วงท้ายปี หลังยอดลงทุนไม่ถึงครึ่ง หวั่นปัญหาเศรษฐกิจโลก สงครามการค้าจีน-สหรัฐ หยวนอ่อนค่ากระทบบาทแข็ง ส่งออกไทยมีปัญหา ย้ำบอร์ดรัฐวิสาหกิจต้องช่วยขับเคลื่อนองค์กร 



นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานติดตามการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ หวังให้เป็นเครื่องมือผลักดันเศรษฐกิจช่วงท้ายปี เนื่องจากมีความเป็นห่วงปัญหาเศรษฐโลกชะลอตัวจากหลายปัจจัย ทั้งสงครามการค้าจีน-สหรัฐรุนแรงขึ้นหวั่นเกรงกระทบต่อการส่งออกไทย นโยบายอ่อนค่าเงินหยวนของจีน กระแสเงินทุนไหลเข้า หลายปัจจัยส่งผลต่อค่าเงินบาทไทยแข็งค่า  หลังจากการตั้ง ครม.ล่าช้ามานานจนกระทบต่อความเชื่อมั่น จึงต้องการให้รัฐวิสาหกิจเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณในช่วงครึ่งหลังของปี 2562 หวังให้เป็นเครื่องมือที่เหลืออยู่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้ายปี เมื่อกระทรวงการคลังและกระทรวงคมนาคมมาร่วมหารือแก้ปัญหาร่วมกัน 


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมเร่งรัดการเบิกจ่ายของรัฐวิสาหกิจให้เป็นไปตามแผน 538,943 ล้านบาท แต่เบิกจ่ายได้เพียง 499,000 ล้านบาท  ยอมรับการเบิกจ่ายยังต่ำกว่าแผนร้อยละ 41 จึงต้องเร่งเบิกจ่ายช่วงปลายปี 130,000 ล้านบาท หรือทำให้ได้อีกร้อยละ 59 โดยเฉพาะการเบิกจ่ายของ 3 รัฐวิสาหกิจมีเงินลงทุนสูง ทั้งการรถไฟห่งประเทศไทย (รฟท.) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ยอมรับว่าช่วงที่รอจัดตั้งรัฐบาลอาจทำให้แผนลงทุนชะลอ แต่จากนี้แผนลงทุนเดินหน้ามากขึ้น ส่วนการบินไทยต้องเร่งรัดการจัดซื้อเครื่องบิน เพื่อแข่งขันกับต่างประเทศ การปรับเส้นทางการบิน การลดต้นทุน เพราะหากรัฐวิสหากิจแห่งใดลงทุนไม่ได้ตามแผนจะถูกดึงไปใช้ลงทุนโครงการอื่น 

สำหรับการเปลี่ยนแปลงบอร์ดรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง โดยเฉพาะรัฐวิสหากิจในการกำกับดูแลของกระทรวงการคลังและกระทรวงคมนาคม ทั้ง 2 กระทรวงหารือร่วมกันแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหาเรื่องการเปลี่ยนแปลงบอร์ดชุดเดิม แต่จะใช้ผลงาน เพื่อให้เป็นไปตามการประเมินผลงาน (KPI) เพื่อวัดการบริหารงาน ประสิทธิภาพองค์กร ผลกำไรขาดทุนเป็นหลัก โดยสัปดาห์หน้าจะสรุปชัดเจนว่าบอร์ดรัฐวิสาหกิจและผู้บริหารรายใดควรต้องเปลี่ยนแปลง การดำรงตำแหน่งบอร์ดรัฐวิสาหกิจใครเข้ามาต้องทำให้องค์กรปรับดีขึ้น  โดยระยะสั้น 2 เดือน สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) มีมาตรการเร่งรัด และพร้อมใช้ระบบ Fast track มากำกับดูแลการเร่งรัดการลงทุน 

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า  ระเบียบใหม่ในการตั้งคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจตามข้อกำหนดต้องเข้าสู่กระบวนการสรรหาบุคคลที่มีคุณสมบัติตามกำหนดของรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่ง โดยมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน จากนั้นเสนอรายชื่อคณะกรรมการให้คณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.) โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานพิจารณา นับว่าข้อกำหนดใหม่ในการคัดเลือกมีหลายขั้นตอน และผู้เป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจต้องมีทักษะความสามารถเหมาะสมกับรัฐวิสาหกิจแต่ละประเภท หลังจากก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าประธานบอร์ดการบินไทย และบอร์ด ทอท.เตรียมลาออกเร็ว ๆ นี้. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นร.หญิง ม.1 จมทะเลดับ หลังโรงเรียนพาไปทัศนศึกษาที่ระยอง

โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา พานักเรียนไปทัศนศึกษาที่ จ.ระยอง นักเรียนหญิง ม.1 ถูกคลื่นดูดลงทะเลขณะเล่นน้ำ เสียชีวิต พ่อแม่สุดเศร้าสูญเสียลูกสาวคนเดียวของครอบครัว

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่จมบาดาล น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

น้ำท่วมในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังวิกฤติ หลังน้ำในลำน้ำปิงขึ้นสูงสุดทรงตัวสูงกว่า 5.30 เมตร ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่มีการวัดระดับน้ำปิง

น้ำท่วมขนส่งเชียงใหม่กระทบผู้โดยสาร เปิดจุดจอดรับ-ส่งชั่วคราว

น้ำขยายวงกว้างเข้าท่วมสถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 2 และ 3 เต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงเกือบ 50 ซม. ผู้ประกอบการขนส่งต้องนำรถทัวร์โดยสารออกมาจอดรับ-ส่งบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ยืนยันผู้ประกอบการยังให้บริการตามปกติ

ระทึก! แท็กซี่พลิกคว่ำเกิดเพลิงไหม้ 5 ชีวิตรอดหวุดหวิด

รถแท็กซี่พลิกคว่ำและเกิดเพลิงลุกไหม้กลางถนนพระราม 9 ผู้โดยสารหญิงสติดีถีบประตูช่วยตัวเองและคนอื่นออกมาจากตัวรถรวม 5 ชีวิตได้ทัน แต่ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 1 คน เป็นคนขับแท็กซี่ ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุ

ข่าวแนะนำ

กต.ย้ำมีแผนพร้อมอพยพคนไทยในอิสราเอล-เลบานอน

กต.ประชุมประเมินสถานการณ์อิสราเอล-ฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ย้ำมีแผนอพยพพร้อม เผย 5 แรงงานไทยเตรียมเดินทางกลับ แนะประชาชนตัดสินใจก่อนน่านฟ้าปิด

เตรียมตั้ง 7 เตาไฟฟ้า พิธีพระราชทานเพลิงศพ นร.-ครู 23 คน

เตรียมพื้นที่ตั้ง 7 เตาไฟฟ้า กลางสนามโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี ในพิธีพระราชทานเพลิงศพ นักเรียน-ครู 23 คน เหยื่อไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา วันที่ 8 ต.ค.นี้

เชียงใหม่ยังอ่วม เจอน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

แม้ระดับน้ำปิงที่ทะลักท่วมตัวเมืองเชียงใหม่เริ่มลดลง จากที่เคยขึ้นสูงสุดถึง 5.30 เมตร ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเท่าที่เคยวัดระดับมา จนทำให้เชียงใหม่เผชิญกับน้ำท่วมครั้งใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์ บ้านเรือนหลายพันหลังและย่านการค้ายังจมน้ำ บางจุดยังท่วมสูงกว่า 2 เมตร ยังต้องเร่งอพยพผู้คนออกจากพื้นที่น้ำท่วม หลายคนต้องใช้ชีวิตอยู่ในรถที่จอดบนสะพาน

ภาคกลางเริ่มกระทบ น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วมบ้านประชาชน

น้ำเจ้าพระยาล้นข้ามถนนเข้าท่วมบ้านกว่า 30 หลังคาเรือน ต.ชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ส่วนชุมชุนริมท่าน้ำปากเกร็ด เริ่มกระทบ