อุดรธานี 4 ส.ค.-สองสามีภรรยาชาว เจ้าของกระบะขับรถลากศพคุณตาวัย 85 ปี ชาวหนองบัวลำภู เข้าพบพนักงานสอบวน สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ย้ำไม่มีเจตนาหนี เผยตกใจมากไม่คิดว่าเป็นศพคน
กรณีเกิดเหตุรถกระบะโตโยต้า วีโก้ แคป สีบรอนซ์ ติดตั้งคอกบนกระบะ ทะเบียน 8001 อุดรธานี ไม่ทราบหมวดอักษร ขับเข้ามาจอดอยู่ที่หน้าร้านขายส่งผลไม้ ในโซนขายผลไม้ ตลาดเมืองทองเจริญศรี เทศบาลนครอุดรธานี ซึ่งรถคันดังกล่าวได้ลากศพนายทอง สุขสวาท อายุ 85 ปี ชาวหนองบัวลำภู ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ และมีชาย-หญิง 2 คน คาดเป็นสามีภรรยา พยายามทำให้ศพหลุดออกจากใต้ทองรถจนสำเร็จ และทิ้งไว้ภายในตลาด ก่อนขับรถหลบหนีออกไป เหตุเกิดช่วงเช้ามืดวันที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา ต่อมามีผู้หญิงคนขับรถรถปิกอัพคู่กรณีอีกคันแสดงความรับผิดชอบว่าเป็นคนขับชนผู้ตาย เนื่องจากป้ายทะเบียนหลุดอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ หน้าบ้านผู้ตาย ที่บ้านเดื่อ ต.โนนทัน อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู
ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว ที่ สภ.เมืองอุดรธานี นายปรีชา มหาวงค์ อายุ 46 ปี และนางบุตรทา มหาวงค์ อายุ 48 ปี สองสามีภรรยา ชาว จ.เลย ได้นำรถกระบะโตโยต้า วีโก้ คันที่ลากศพผู้ตายเข้ามาในตลาดเมืองทองเจริญศรี เข้าให้ปากคำถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กับ ร.ต.ท.แทน นุ่มเจริญ รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เจ้าของคดี
สองสามีภรรยาเปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุพากันขับรถไปรับซื้อผลไม้แก้วมังกร 1 ตัน ราคา 5,000 บาท จากชาวสวนที่ อ.ภูเรือ จ.เลย เพื่อมาขายที่ตลาดเมืองทองเจริญศรี ขณะขับลงมาจากเทือกเขาภูพานน้อย มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองอุดรธานี โดยใช้ความเร็วประมาณ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เนื่องจากฝนตกและรถบรรทุกหนัก เมื่อผ่านบริเวณหน้าบ้านผู้ตาย เหมือนกับล้อรถเหยียบอะไรบางอย่าง ทีแรกคิดว่าเหยียบสุนัขที่ถูกรถทับตายกลางถนน จึงไม่ได้สนใจอะไร ขับรถต่อมาจนมาถึงที่จอดรถภายในตลาด ภรรยาได้เดินลงจากรถ ชี้บอกสามีว่าเหยียบสุนัขติดใต้ท้องรถมา และบอกให้ย้ายที่จอดใหม่ เพราะว่าบริเวณที่จอดตรงนั้นสกปรก จากนั้นภรรยาได้เดินไปเข้าห้องน้ำและไปซื้อถุงพลาสติกเตรียมใส่ให้กับลูกค้าที่มาซื้อผลไม้
ต่อมาเมื่อสามีเดินลงมาจากรถ ทีแรกคิดว่าเป็นสุนัขตามที่ภรรยาบอก แต่กลับเห็นเป็นเศษกล่องกระดาษ แต่เมื่อก้มลงดูชัดๆ พบเป็นมือและเท้าของคนโผล่ออกมา ทำให้รู้สึกตกใจอย่างมากจนทำอะไรไม่ถูก คิดว่าโดนผีหลอกเข้าแล้ว เมื่อตั้งสติได้ขึ้นไปขับรถพยายามถอยออกและเข้าหลายครั้ง จนศพหลุดออกมา จากนั้นจึงพากันขับรถบรรทุกผลไปขายตามตลาดนัดในพื้นที่ อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู รวม 2 วัน จนแก้วมังกรหมด ก่อนนำเรื่องไปปรึกษากับตำรวจที่ สภ.โนนสัง ที่แนะนำว่าเมื่อขายของหมดแล้วให้เข้าแสดงความบริสุทธิ์ใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งพวกตนไม่ได้มีเจตนาไปในทางลบ หรือหลบหนีแต่อย่างใด
เมื่อให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี รู้สึกสบายใจขึ้นมาก เพราะไม่มีใครอยากจะขับรถลากศพเข้าไปในตลาด หากไม่เกิดกับตนเองไม่มีใครรู้หรอกว่ามันทุกข์ใจขนาดไหน หลังทราบข่าวจากสื่อต่างๆ ที่ประณามพวกตนต่างๆ นานา หลังจากนี้พวกตนจะเดินทางไปกราบขอขมาศพผู้ตายที่บ้าน ในสิ่งที่พวกตนไม่มีเจตนา เพื่อไม่ให้มีเวรกรรมต่อกัน และจะเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองบัวลำภู เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้นหลังสอบปากคำสองสามีภรรยาเสร็จ ตำรวจไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา เป็นการมาพบพนักงานสอบสวน ให้ปากคำแสดงความบริสุทธิ์ใจ.-สำนักข่าวไทย