พังงา 26 ก.ค.- ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย อสมท ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านใน จ.พังงา น้ำในลำคลองพังงากัดเซาะใกล้ถึงบ้าน วอนช่วยเหลือด่วนก่อนไร้ที่อยู่อาศัย หน่วยงานราชการเคยรับปากแต่ไม่มาทำ
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย อสมท ลงพื้นที่พบนางรื่นฤดี เพิ่มทรัพย์ อายุ 60 ปี พร้อมด้วยชาวบ้านในพื้นที่บ้านบกเฟือง ม.6 ต.นบปริง อ.เมืองพังงา พาผู้สื่อข่าวดูร่องรอยน้ำในลำคลองพังงากัดเซาะจนตลิ่งพังลงเรื่อยๆ ทำให้พืชผลทางเกษตรล้มหายลงไปในลำคลองอย่างต่อเนื่องมานานหลายปี และกัดเซาะอย่างมากโดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ล่าสุด ตลิ่งทรุดพังเข้ามาจนใกล้ถึงบ้านที่อยู่อาศัย ทำให้ชาวบ้านไม่เป็นอันกินอันนอน ต้องคอยเฝ้าระวังว่าตลิ่งจะพังมาถึงหลังบ้านตอนไหน
จากการดูสภาพพื้นที่พบว่า บ้านของชาวบ้านกว่า 10 หลัง อยู่ในบริเวณช่วงโค้งด้านนอกของลำคลอง ซึ่งกระแสน้ำได้เปลี่ยนทิศทางกัดเซาะเข้ามาใกล้กับบ้านเรือนของชาวบ้านอยู่เรื่อยๆ คาดว่าหากไม่ได้การแก้ไข หน้าฝนปีนี้น้ำในลำคลองอาจจะกัดเซาะจนถึงบ้านอยู่อาศัยของชาวบ้าน
นางรื่นฤดี เพิ่มทรัพย์ กล่าวว่า ปัญหาน้ำในคลองพังงากัดเซาะได้เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ทำให้พืชผลทางเกษตรเสียหายไปจำนวนมาก ปัจจุบันหลักเขตที่ดินเดิมอยู่ในลำคลอง บางจุดก็อยู่อีกฝั่งคลอง เพราะถูกน้ำกัดเซาะมาเข้ามาแล้วไม่น้อยกว่า 50 เมตร
ชาวบ้านหลายคนต้องย้ายบ้านมาสร้างใหม่ให้ห่างจากลำคลองมากขึ้น แต่น้ำก็ยังกัดเซาะตามมาเรื่อยๆ เคยร้องเรียนขอความช่วยเหลือไปหลายหน่วยงานราชการ ซึ่งเคยมารับปากว่าจะมีการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งพัง แต่ก็หายเงียบทุกครั้ง พอเกิดปัญหาในช่วงหน้าฝนก็มาแค่ถ่ายรูป และบอกว่ามีโครงการทำเขื่อนแล้ว แต่พอเข้าหน้าแล้งก็เงียบไปอีก ไม่เคยมาทำสักปี ปล่อยให้ชาวบ้านต้องทนทุกข์แบบนี้ไปเรื่อยๆ สักวันคงไร้ที่ดินและที่อยู่อาศัย.-สำนักข่าวไทย