กรุงเทพฯ 16 ส.ค. – นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า วันที่ 19-21 สิงหาคมนี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จะเปิดให้ประชาชนจองบ้านธนารักษ์ประชารัฐครั้งแรกกว่า 800 ยูนิต ใน 4 โครงการ คือ กรุงเทพฯ 2 โครงการ และอำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี 2 โครงการ โดยประชาชนใช้เพียงแค่บัตรประชาชนในการจองบ้านประชารัฐ มาก่อนมีสิทธิก่อน ส่วนประชาชนที่เคยยื่นเอกสารกับธนาคารพาณิชย์ เจ้าหน้าที่ธนาคารจะคีย์ข้อมูลวันที่ 19 สิงหาคมเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม หากในงานประชาชนจองบ้านไม่หมด สามารถไปจองได้ที่กรมธนารักษ์สำหรับโครงการเช่าระยะสั้น 5 ปี และจองที่ธนาคารพาณิชย์และบริษัทสำหรับโครงการนี้เช่าระยะยาว จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2559 หรือจองผ่าน www.treasury.go.th
นายจักรกฤศฏิ์ กล่าวว่า สำหรับบ้านธนารักษ์ประชารัฐเริ่มต้นที่ราคา 690,000 – 710,000 บาทต่อหลัง โดยเป็นทาวน์เฮาส์ที่อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี และมั่นใจว่าการก่อสร้างโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐจะเสร็จภายใน 2 ปี และเตรียมเปิดโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐเฟส 2 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปทุมธานี ฉะเชิงเทรา และเชียงใหม่ โดยเฉพาะเชียงใหม่จะต้องมีการทำประชาพิจารณ์สอบถามความเห็นของประชาชน หลังจากมีประชาชนออกมาคัดค้านโครงการที่เชียงใหม่จนต้องหาพื้นที่และเปิดประมูลใหม่
ด้านนายอาณัติ ปิ่นรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานบัญชีการเงิน บริษัท อารียา พร็อพเพอร์ตี้ กล่าวว่า บริษัทมีความพร้อมที่จะดำเนินโครงการ ซึ่งคาดว่าจะเสร็จตามที่กรมธนารักษ์กำหนด ส่วนการที่ยกเลิกโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐที่จังหวัดเชียงใหม่ บริษัทจะไม่ดำเนินการฟ้องร้องแต่อย่างใด และไม่ได้ส่งผลกระทบต่อบริษัท ขณะเดียวกันบริษัทพร้อมที่จะเข้าร่วมโครงการเฟส 2 เพราะถือเป็นการคืนกำไรให้กับสังคม
ทั้งนี้ กรมธนารักษ์ได้ร่วมลงนามในสัญญาเช่าบ้านธนารักษ์ประชารัฐกับผู้ชนะประมูลงานออกแบบก่อสร้าง 3 ราย คือ บริษัท อารียา แมนเนจเมนท์ ผู้ชนะประมูลงานออกแบบพัฒนาพื้นที่บริเวณถนนพหลโยธิน ตรงข้ามวัดไผ่ตัน สะพานควาย เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ในรูปแบบคอนโดมิเนียม 8 ชั้น , บริษัท ปักกิ่ง เออร์บัน คอนสตรัคชั่น ยาไถ๋ (ไทย) คอนสตรัคชั่น กรุ๊ป ออกแบบพัฒนาโครงการบริเวณโรงกษาปณ์เก่า ถนนประดิพัทธ์ แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ ในรูปแบบคอนโดมิเนียม และ บริษัท กลอรี่ แมนเนจเมนท์ ชนะประมูลออกแบบ 2 แปลง ที่อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี เป็นเทาวเฮาส์ 2 ชั้น รวม 4 โครงการ ทั้งหมดรวมกว่า 800 ยูนิต
สำหรับโครงการเช่าระยะสั้นเป็นคอนโดมิเนียมให้เจ้าหน้าที่ของรัฐรายได้เดือนละไม่เกิน 20,000 บาท เช่าพักอาศัยเดือนละ 4,000 บาทเป็นเวลา 5 ปี ส่วนโครงการเช่าระยะยาว เป็นโครงการบ้านแถว บ้านเดี่ยว อาคารชุดพักอาศัย เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของรัฐและประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง ราคาซื้อต่ำสุด 690,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาท.- สำนักข่าวไทย