รร.มิราเคิล 18 ส.ค.-แพทย์เตือนผู้ติดสุราเสี่ยงเสียชีวิตสูง ส่วนผู้เลิกดื่มแบบหักดิบ ร้อยละ 5 มีอาการเสี่ยงรุนแรง ควรรีบพบแพทย์
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล และศูนย์ปรึกษาปัญหาสุรา 1413 ร่วมจัดเสวนา “ไขความจริง พักตับ หักดิบลงแดง” จากกรณีที่มีผู้ป่วยเมาสุราคลั่งในโรงพยาบาลและการหักดิบเลิกดื่มช่วงเข้าพรรษาจนเกิดอาการช็อกรุนแรงเสียชีวิต2ราย
พ.อ.นพ.พิชัย แสงชาญชัยจิตแพทย์ กองจิตเวชและประสาทวิทยา โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า กล่าวว่า จากข้อมูลพบผู้ติดสุราที่มีโอกาสถอนสุรารุนแรง หรือกลุ่มเสี่ยงสูง ประมาณร้อยละ 5 โดยปัจจัยเสี่ยงต่อการถอนรุนแรง ได้แก่ ดื่มปริมาณมากและนาน โดยดื่มเหล้าขาวตั้งแต่ 1 แบนต่อวัน หรือดื่มเบียร์ตั้งแต่ 5 ขวดต่อวันเป็นเวลา 5 ปีขึ้นไป อีกทั้งยังพบในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีโรคทางกายแทรกซ้อน เคยหยุดสุราแล้วชักหรือสมองอักเสบ ติดสารเสพติดหลายตัวร่วมด้วย
สำหรับผู้ต้องการหยุดดื่มสุรา หรือหักดิบส่วนใหญ่แล้ว สามารถกระทำได้เลย และมีเปอร์เซ็นต์การเลิกสุราได้สูงสุด โดยมีอาการถอนหนักมากไม่รุนแรง อาการเริ่มเกิดขึ้นภายใน 6- 8 ชั่วโมง หลังจากหยุดหรือลดปริมาณการดื่ม ซึ่งเป็นอาการของระบบประสาทตื่นตัว เช่นคลื่นไส้ อาเจียนมือ สั่นใจสั่น เหงื่อแตก หงุดหงิด อยากดื่ม ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น เป็นต้น อาการจะเป็นมากที่สุดในวันที่2 และจะเบาลงและหายไปในวันที่3-5
ส่วนอาการถอนรุนแรงถือเป็นอาการฉุกเฉินที่ต้องไปพบแพทย์ทันทีเนื่องจากร่างกายปรับสภาพไม่ทัน อาการที่พบคือมีอาการคลื่นไส้อาเจียนรุนแรง ชักหูแว่ว เพ้อคลั่งสับสน ประสาทหลอน แพทย์จะให้ยาเพื่อบรรเทาอาการถอนสุรา ป้องกันอาการชักและสมองอักเสบ เมื่ออาการคงที่แพทย์จะลดปริมาณยาลง รวมระยะเวลาในการรักษาประมาณ 7-10 วัน
ทั้งนี้ศูนย์รับปรึกษาปัญหาสุราหรือ 1413 ของโรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า มีสถิติผู้โทรมาปรึกษาปัญหาการเลิกดื่มสุราโดยเฉพาะช่วงเข้าพรรษาเพิ่มขึ้นจากปกติเป็นสองเท่า
นายดำรงค์ เภตรา อายุ 71 ปีจากชุมชนสวนอ้อย เขตคลองเตย ซึ่งเคยหักดิบเลิกสุรา จนสามารถเลิกสุราได้เด็ดขาดมากว่า 10 ปีแล้ว เผยว่า ตัดสิน ใจเลิกเนื่องจากมีปัญหาสุขภาพ เงินไม่เหลือเก็บและมีปัญหาการใช้ความรุนแรงในครอบครัว อีกทั้งสำนึกผิดที่เป็นตัวอย่างไม่ดีให้กับลูกทำให้ลูกติดยาและเกเร จึงตัดสินใจหักดิบและตั้งแต่เลิกดื่มตลอดชีวิตโดยใช้ช่วงเข้าพรรษาเป็นจุดเริ่มต้น ช่วงสัปดาห์แรกเป็นช่วงที่ทรมานที่สุดแต่ถ้าผ่านพ้นไปได้ก็จะสามารถเลิกได้ โดยปัจจัยสำคัญคือกำลังใจที่ดีจากตัวเองและคนรอบข้าง.-สำนักข่าวไทย