พรรคภูมิใจไทย 13 มิ.ย.-พรรคภูมิใจไทยตั้งกรรมการสอบ “สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ” หลังโหวตสวนมติพรรคขณะเลือกนายกรัฐมนตรี เรียกเจ้าตัวชี้แจง 18 มิ.ย.นี้ คาด 1 สัปดาห์รู้ผล ชี้โทษหนักสุดขับออกจากพรรค ตั้ง “อนุทิน-ศักดิ์สยาม” ดูชื่อคนเข้าดำรงตำแหน่งทางการเมือง หลังเคาะแล้ว 150 รายชื่อ
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยผลการประชุมกรรมการบริหารพรรค ว่า ที่ประชุมหารือเรื่องการตั้งกรรมการในการปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมของพรรค จำนวน 4 คน ที่ดำเนินการสอบสวนกรณีของนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ ลงมติงดออกเสียง ขณะโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งสวนมติของพรรค โดยในวันที่ 18 มิถุนายนนี้ นายสิริพงศ์ จะมาให้ข้อมูลกับพรรคเพื่อให้เกิดความชัดเจนในการดำเนินการทางการเมืองต่อไป ซึ่งตามข้อบังคับพรรคนั้น มีบทลงโทษลดหลั่นไป หากตรวจสอบแล้ว ไม่เป็นความผิด ก็ยกเลิกไป คาดว่าภายใน 1 สัปดาห์จะทราบผลการสอบสวนนายสิริพงศ์ ส่วนจะมีบทลงโทษถึงขั้นขับออกจากพรรคหรือไม่ ต้องรอฟังคำชี้แจงของนายสิริพงศ์ก่อน
นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคยังได้จัดทำบัญชีรายชื่อของผู้ที่จะดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยเสนอรายชื่อ 150 คน ประกอบด้วย ส.ส.ของพรรค ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ทั้งแบบเขตและบัญชีรายชื่อ รวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งได้รับฟังความเห็นจากสมาชิกพรรคทั่วประเทศ และวันนี้ (13 มิ.ย.) ที่ประชุมฯ มีมติมอบหมายให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค และตน ดำเนินการตรวจสอบและคัดเลือกบุคคลเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไป
“จะดำเนินการอย่างโปร่งใส คัดกรองคนที่ดีที่สุด ส่วนผู้ที่จะได้โควตา 8 เก้าอี้รัฐมนตรีก็อยู่ใน 150 รายชื่อนี้ ขณะที่ตำแหน่งอื่น ๆ ในการเมืองนอกเหนือจากตำแหน่งรัฐมนตรีก็อยู่ใน 150 รายชื่อนี้ ส่วนโผรัฐมนตรีที่ออกมาเป็นไปตามข่าวหรือไม่นั้น ต้องไปถามคนที่เผยแพร่ ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้พิจารณาคัดเลือก” นายศักดิ์สยาม กล่าว
นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า กรณี ส.ส.ของพรรคที่จะต้องไปดำรงรัฐมนตรีนั้น ที่ประชุมฯ เห็นควรให้ต้องลาออกจากตำแหน่ง ส.ส. เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพ ยกเว้นหัวหน้าและเลขาธิการพรรคภูมิใจไทยที่ไม่ต้องลาออกจากการเป็น ส.ส.
ส่วนกรณีนายปกรณ์ มุ่งเจริญพร ส.ส.สุรินทร์ ถูกร้องเข้าข่ายคุณสมบัติการถือครองหุ้นในกิจการสื่อสารมวลชนนั้น นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า รอดูคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ หากขาดคุณสมบัติ ก็ต้องพ้นจากสมาชิกภาพ ส.ส.-สำนักข่าวไทย