เปิดภาคเรียนหนุนดัชนีอุตฯ พ.ค.ดีขึ้น

กรุงเทพ 13 มิ.ย. – ส.อ.ท.เผยเปิดภาคเรียนส่งผลให้การใช้จ่ายอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องปรับตัวดีขึ้น หนุนดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 95.9 แนะรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย และเร่งเจรจาการค้าเอฟทีเอไทย-อียู 


นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือนพฤษภาคม 2562 ว่า ดัชนีฯ ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 95.9 เพิ่มขึ้นจากระดับ 95.0 ในเดือนเมษายน 2562 ปัจจัยบวกจากการบริโภคในประเทศเป็นสำคัญ สะท้อนจากการใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา เนื่องจากเป็นช่วงเปิดภาคเรียนในกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม รองเท้า การพิมพ์ เยื่อและกระดาษ ขณะเดียวกันโครงการก่อสร้างภาครัฐยังส่งผลดีต่อสินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้าง ขณะที่ยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านขยายตัวต่อเนื่องจากสภาพอากาศที่ยังอยู่ในช่วงฤดูร้อน อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการยังกังวลต่อการชะลอตัวของการส่งออกที่เกิดจากข้อพิพาททางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก รวมทั้งการแข็งค่าของเงินบาท 

สำหรับดัชนีฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 102.9 โดยเพิ่มขึ้นจาก 101.9 ในเดือน เมษายน 2562 เนื่องจากผู้ประกอบการคาดว่าเมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาลแล้วจะสร้างความเชื่อมั่นต่อการค้าและการลงทุนของไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2562  


ส่วนปัจจัยที่ผู้ประกอบการมีความกังวลเพิ่มขึ้น ได้แก่ สภาวะเศรษฐกิจโลกและอัตราแลกเปลี่ยน สำหรับปัจจัยที่ผู้ประกอบการกังวลลดลง ได้แก่ ราคาน้ำมัน สถานการณ์การเมืองในประเทศและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ โดยมีข้อเสนอแนะภาครัฐ คือ ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะมาตรการทางด้านภาษี เช่น มาตรการช้อปช่วยชาติ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายภายในประเทศ นอกจากนี้ ยังขอให้รัฐบาลเร่งเจรจาข้อตกลงทางการค้าหรือเอฟทีเอไทยกับสหภาพยุโรป (อียูป เพื่อขยายตลาดการค้าและการลงทุนระหว่างกัน 

นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท. เปิดเผยว่า การแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่และเศรษฐกิจในประเทศที่ยังคงขยายตัว การช่วยเหลือเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อยของรัฐบาล การลงทุนภาครัฐและภาคเอกชน และการท่องเที่ยวที่ยังคงมีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้ามาท่องเที่ยวจำนวนมาก ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ในประเทศเดือนพฤษภาคม 2562 ยังดี ด้วยยอดรวม 88,097 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา คิดเป็นร้อยละ 3.7 และเพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2562 ร้อยละ 2.4 ส่วนยอดขายรวม 5 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.-พ.ค.) มียอดขายสะสมรวม 437,722 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาคิดเป็นร้อยละ 9.1 จึงมั่นใจว่าเป้าหมายยอดขายทั้งปีที่ตั้งไว้ 1.05  ล้านคัน มีโอกาสเป็นไปได้ หากไม่เกิดสถานการณ์ความไม่สงบภายในประเทศหรือน้ำท่วมยาวและภัยแล้ง  


ด้านการส่งออกรถยนต์ เดือนพษาภาคม 2562 มียอดรวม 95,331 คัน เท่ากับร้อยละ 100.9 ของยอดผลิตเพื่อส่งออก ลดลงจากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาคิดเป็นร้อยละ 3.58 โดยส่งออกลดลงเกือบทุกตลาด ยกเว้นตลาดเอเชีย ตลาดตะวันออกกลาง ส่วนยอดรวมการส่งออกรถยนต์ช่วง 5 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.- พ.ค.)  462,286 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาคิดเป็นร้อยละ 0.94 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาคิดเป็นร้อยละ 3.27 และยังเชื่อว่าเป้าหมายส่งออกรถยนต์ปีนี้ที่ตั้งไว้ 1.1 ล้านคันจะเป็นไปได้ แต่ยังกังวลผลกระทบจากสงครามการค้า ด้านยอดผลิตปี 2562  ซึ่งตั้งเป้าหมายไว้ที่ 2.15 ล้านคันน่าจะเป็นไปได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้ห้องพักคอนโดฯ หรูกลางเมืองพัทยา

เพลิงไหม้คอนโดมิเนียมหรูกลางเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ระดมรถน้ำควบคุมเพลิงได้ทัน ทำให้ไฟไม่ลุกลามห้องข้างเคียง

จับ “ใบเฟิร์น” อินฟลูฯสาวชื่อดัง โพสต์ชวนเล่นพนันออนไลน์

ตำรวจไซเบอร์ รวบ “ใบเฟิร์น กุลธาดา” อินฟลูฯ สาวแนวเซ็กซี่ ผู้ติดตามหลักล้าน แปะลิงก์เว็บพนันออนไลน์ เจ้าตัวยอมรับ ทำมาแล้ว 2-3 เดือน

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

ข่าวแนะนำ

คุมตัวสาวใหญ่โหดฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ทำแผนฯ

ตร. คุมตัวสาวใหญ่โหด ลวงเพื่อนฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าตัวสำนึกผิด ฝากขอโทษญาติผู้เสียชีวิต ยอมรับทำเพราะติดหนี้พนันออนไลน์

Drone video captures severe flooding caused by super typhoon Man-Yi in the Philippines

ฟิลิปปินส์น้ำท่วมหนัก หลังไต้ฝุ่น “หม่านหยี่” ถล่ม

มะนิลา 18 พ.ย. – ฟิลิปปินส์เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ หลังจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นหม่านหยี่ (Man-yi) พัดถล่มเกาะลูซอน ช่วงสุดสัปดาห์ เป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ในรอบ 1 เดือน ไต้ฝุ่นขึ้นฝั่งด้วยความเร็วลมสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เกิดคลื่นสูง 7 เมตรบริเวณริมชายฝั่ง ส่งผลกระทบประชากรกว่า 760,000 คน และทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่จังหวัดนูเอวาเอซีฮา ทางตอนกลางของเกาะลูซอน ที่มีน้ำท่วมสูงเฉลี่ยเกือบ 1 เมตร นอกจากนี้ยังทำให้เกิดดินถล่มและสาธารณูปโภคพังเสียหายมากมาย ประชาชนมากกว่า 1 ล้านคนต้องอพยพไปอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ พายุหม่านหยี่เป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในช่วง 1 เดือน ทั่วทั้งประเทศต้องตื่นตัวเพื่อรับมือภัยพิบัติด้วยมาตรการต่าง ๆ.-812(814).-สำนักข่าวไทย

ฆ่าตัดนิ้ว

เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วแม่ยายอัยการ ชิงทรัพย์ล้างหนี้พนัน

หญิงวัย 56 ปี เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์แม่ยายอัยการ ก่อนนำทรัพย์สินไปขายใช้หนี้พนัน ตำรวจคุมตัวไปตามหาทรัพย์สินของกลาง อ้างลงมือก่อเหตุคนเดียว