กรุงเทพฯ 20 ส.ค.-โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย แผนดันโอท็อปขึ้นเครื่องฉลุย นักท่องเที่ยวตอบรับดี เพียงเดือนเดียวยอดขายทะลุ 2 แสน ตั้งเป้ารายได้ 10 ล้านต่อปี แนะผู้ประกอบการปรับตัวเพิ่มมูลค่าสินค้า สร้างรายได้ก้าวกระโดด 40%
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ยอดขายสินค้าโอท็อปบนสายการบินไทยช่วงทดลองวางแคตตาล็อก เพียงเดือนเดียวมีรายได้กว่า 200,000 บาท ซึ่งถือเป็นนิมิตหมายที่ดี โดยรัฐบาลตั้งเป้าสร้างรายได้จากการขายสินค้าโอท็อปบนเครื่องบินปีละ 10 ล้านบาท โดยนายกรัฐมนตรีภูมิใจที่สินค้าชุมชนไทยก้าวสู่ระดับสากล โดยแคตตาล็อกสินค้า 128 รายการ ที่วางอยู่ทุกที่นั่งของสายการบินไทย 150 เที่ยวบินต่อวัน ทั้งในและต่างประเทศ ถือเป็นแคตตาล็อกสินค้าชุมชนที่วางบนเครื่องบินครั้งแรกของโลก ซึ่ง นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า สิ่งนี้เป็นความสำเร็จที่เกิดจากความร่วมมือของทุกฝ่าย เป็นการช่วยสานฝันของผู้ประกอบการท้องถิ่นให้มีแรงใจในการประกอบอาชีพ สร้างรายได้ โดยฝากแนะผู้ประกอบการให้รู้จักปรับตัวตามกระแสโลก ผลิตและพัฒนาสินค้าแบบใหม่ๆ ที่ตลาดต้องการแต่ยังหาซื้อไม่ได้ (Unmet Demand) เช่น ขนมปังแครกเกอร์จากข้าวหอมมะลิไทย วอลเปเปอร์จากผ้าไหมไทย ฯลฯ
“เราเริ่มต้นจากสินค้าที่มีความนิยมสูง เช่น เครื่องประดับ ผ้าไทย กระเป๋า เครื่องเบญจรงค์ ฯลฯ จากนั้นจะคัดเลือกสินค้าในเฟส 2 หมุนเวียนจำหน่ายไม่ซ้ำกัน สินค้าแต่ละชนิดมีความสวยงาม ด้วยเอกลักษณ์แบบไทย ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถสั่งซื้อสินค้าผ่านสมาร์ทโฟน โดยไม่คิดค่าธรรมเนียม เพียงสแกน QR CODE ในแคตตาล็อก และรับสินค้าได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิหรือจะเลือกรับบริการจัดส่งถึงบ้านก็ได้ทั้งนี้ผู้ประกอบการท้องถิ่น และภาคเอกชนจะต้องร่วมกันทำงาน และนำเทคโนโลยีนวัตกรรม หรือองค์ความรู้ที่ก้าวหน้ามาใช้ โดยภาครัฐพร้อมให้การสนับสนุนเต็มที่ ซึ่งหากพัฒนาสินค้าด้วยความคิดสร้างสรรค์ และตรงกับความต้องการของลูกค้า ก็จะช่วยเพิ่มการเติบโตของรายได้อย่างก้าวกระโดด 30-40%” พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
นอกจากนี้พล.ต.สรรเสริญ ยังขอเน้นย้ำไปยังพี่น้องประชาชนว่า อย่าลืมไปใช้สิทธิจับจ่ายซื้อสินค้าโอท็อป เพื่อนำไปหักลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 15,000 บาท โดยซื้อจากร้านค้าทั่วประเทศที่ผ่านการรับรองและเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ได้จนถึง 31 ส.ค.นี้ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ตามนโยบายของรัฐบาล.-สำนักข่าวไทย