นนทบุรี 22 ส.ค. – กลายเป็นคดีที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด หลังจากมีการแจ้งความกลุ่มคนร้ายฉุดนักเรียน ม.6 โรงเรียนชื่อดังใน จ.นนทบุรี ขึ้นรถไปก่อนหนีออกมาได้ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นนทบุรี เปิดเผยความคืบหน้าคดีนี้พบว่า คนขับรถที่ก่อเหตุเป็นอาจารย์ที่ไปมาหาสู่รับ-ส่งลูกศิษย์มานานกว่า 1 ปี ในทางคดีตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เตรียมสอบสวนในเชิงลึก ก่อนขยายผลต่อไป
จุดเกิดเหตุเป็นถนนภายในวิทยาลัยมหาดไทย หรือศาลางกลางจังหวัดนนทบุรีหลังเก่า ช่วงเช้าวันศุกร์ที่19 สิงหาคม ทีมข่าวได้สอบถามจาก รปภ. และแม่ค้าภายในวิทยาลัยมหาดไทย ได้รับคำยืนยันว่าในวันดังกล่าวตั้งแต่ 06.00-8.30 น. มีผู้ปกครองมาส่งนักเรียนที่โรงเรียนอนุบาลนนทบุรี ตามปกติ ไม่มีเหตุความวุ่นวายหรือการฉุดกระชากนักเรียนหญิงขึ้นรถยนต์ตามที่เป็นข่าว และจากการตรวจสอบภาพวงจรปิด กลับไม่พบนักเรียนหญิงคนดังกล่าวเดินผ่าน
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่เช้าวันศุกร์ที่ 19 แต่เหตุใดผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี ในบ่ายวันอาทิตย์ ล่าช้าไปเกือบ 3 วัน ทีมข่าวได้ติดต่อไปยังมารดาผู้เสียหายได้รับการเปิดเผยสั้นๆ ว่าลูกสาวยังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมยืนยันไม่รู้จักกับผู้ก่อเหตุและจำใบหน้าไม่ได้ วันนี้ต้องลาเรียนอีกวัน ส่วนรายละเอียดขณะเกิดเหตุไม่ขอเปิดเผย เกรงจะเสียรูปคดี ขณะเดียวกันมีผู้เห็นเหตุการณ์ซึ่งเป็น รปภ.ของบ้านหลังหนึ่งเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจ
ทีมข่าวขับรถยนต์ไปตามถนนที่นักเรียนหญิงคนดังกล่าวอ้างว่าเป็นเส้นทางที่ 3 ผู้ก่อเหตุพาเธอไปจนกระทั่งเธอสามารถหลบหนีออกมาจากรถได้
สอดคล้องกับภาพวงจรปิดที่เพิ่งถูกเปิดเผยช่วงเย็นที่ผ่านมา ซึ่งปรากฏภาพรถยนต์ยี่ห้อมิซซูบิชิ สีดำ ประตูซ้ายถูกเปิดค้างไว้ ขับมาชิดช่องทางซ้ายก่อนจะจอด และมีนักเรียนหญิงลงจากรถและปิดประตู จากนั้นได้ไปนั่งที่ริมทางเท้า และรถคันดังกล่าวได้ขับออกไป
จากการตรวจสอบทะเบียรรถคันดังกล่าวทราบว่าเป็นของอาจารย์ชายคนหนึ่งในโรงเรียนเดียวกันกับที่ผู้เสียหายศึกษาอยู่ โดยอาจารย์คนดังกล่าวยอมรับไปมาหาสู่กับลูกศิษย์มาปีกว่าแล้ว
ล่าสุดผู้อำนวยการโรงเรียนสั่งตั้งกรรมการสอบสวนอาจารย์คนดังกล่าวแล้ว ขณะที่ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยม เขต 3 สั่งด่วนให้อาจารย์คนดังกล่าวเข้าไปช่วยงานที่สำนักงานเขตตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป
ด้านผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี ระบุจะสอบสวนเรื่องนี้อย่างละเอียดว่าฝ่ายใดให้การเท็จ และจะดำเนินาคดีโดยไม่มีการละเว้น. – สำนักข่าวไทย