ก.ล.ต.เตือนประชาชนระวังถูกชวนลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล

กรุงเทพฯ 8 พ.ค. –  ก.ล.ต.เตือนประชาชนใช้ความระมัดระวัง หากถูกชักชวนให้ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล “GHS – ZGW – GJM” เนื่องจากไม่ผ่านการพิจารณา


สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับแจ้งเบาะแสและตรวจพบว่ามีการชักชวนผ่านทางสื่อออนไลน์ต่าง ๆ อาทิ เว็บไซต์บริษัท Facebook Line application และ YouTube  ให้ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล หรือเสนอขายไอซีโอ ได้แก่ 1.Cryptomining Farm หรือ GHS 2. ZGW และ 3. GJM 

ก.ล.ต.ขอแจ้งเตือนให้ทราบว่าสินทรัพย์ดิจิทัลหรือไอซีโอ 3 รายข้างต้น ยังไม่ได้ยื่นคำขอและไม่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. ซึ่งผู้ที่ได้รับข่าวสารหรือได้รับการชักชวนควรใช้ความระมัดระวังในการพิจารณาความเสี่ยงในการลงทุนเป็นอย่างมาก เนื่องจากไอซีโอเหล่านี้มิได้เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง  ไม่ผ่านการกลั่นกรองคุณสมบัติโดยไอซีโอพอร์ทัลที่ได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต.  อาจไม่มีการเปิดเผยข้อมูลที่จำเป็นและเพียงพอต่อการตัดสินใจของผู้ลงทุน  ผู้ประกอบธุรกิจหรือตัวแทนขายภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลดังกล่าว และสินทรัพย์ดิจิทัลดังกล่าวอาจไม่มีสภาพคล่องในการซื้อขายหรือไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้


นอกจากนี้ มีผู้ฉวยโอกาสชักชวนให้ลงทุน โดยอ้างการให้ผลตอบแทนจากเหรียญหรือสินทรัพย์ดิจิทัลลักษณะแชร์ลูกโซ่ โดยอาจสัญญาหรือรับประกันจะให้ผลตอบแทนสูง เร่งรัดการตัดสินใจ และให้ผลตอบแทนเพิ่มเติมจากการชักชวนผู้อื่นมาร่วมลงทุนเป็นเครือข่าย รวมทั้งอาจไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับแผนธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ แพลตฟอร์ม หรือทีมงานที่ชัดเจนและน่าเชื่อถือ  

ก.ล.ต.จึงขอย้ำให้ผู้ที่สนใจลงทุนต้องตระหนักถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง และหากประสงค์จะลงทุน ขอให้ติดต่อผู้ที่ได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างถูกต้อง โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อและศึกษาข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ เสี่ยงสูง.com  และหากสนใจลงทุนในไอซีโอหรือโทเคนดิจิทัล ขอแจ้งให้ทราบว่าขณะนี้ยังไม่มีผู้ออกโทเคนดิจิทัลรายใดได้รับอนุญาต รวมถึงยังไม่มีผู้ใดมายื่นแบบคำขออนุญาตและแบบไฟลิ่งกับ ก.ล.ต. หากผู้ลงทุนมีเบาะแสเกี่ยวกับการดำเนินการที่น่าสงสัย โปรดแจ้ง Help Center ของ ก.ล.ต. ที่โทร.1207 เพื่อการตรวจสอบในเชิงลึกต่อไป และในกรณีที่ตรวจพบว่ามีเข้าข่ายการกระทำที่อาจผิดกฎหมายอื่น ก.ล.ต.จะมีกระบวนการในการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้ห้องพักคอนโดฯ หรูกลางเมืองพัทยา

เพลิงไหม้คอนโดมิเนียมหรูกลางเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ระดมรถน้ำควบคุมเพลิงได้ทัน ทำให้ไฟไม่ลุกลามห้องข้างเคียง

จับ “ใบเฟิร์น” อินฟลูฯสาวชื่อดัง โพสต์ชวนเล่นพนันออนไลน์

ตำรวจไซเบอร์ รวบ “ใบเฟิร์น กุลธาดา” อินฟลูฯ สาวแนวเซ็กซี่ ผู้ติดตามหลักล้าน แปะลิงก์เว็บพนันออนไลน์ เจ้าตัวยอมรับ ทำมาแล้ว 2-3 เดือน

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

ข่าวแนะนำ

คุมตัวสาวใหญ่โหดฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ทำแผนฯ

ตร. คุมตัวสาวใหญ่โหด ลวงเพื่อนฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าตัวสำนึกผิด ฝากขอโทษญาติผู้เสียชีวิต ยอมรับทำเพราะติดหนี้พนันออนไลน์

Drone video captures severe flooding caused by super typhoon Man-Yi in the Philippines

ฟิลิปปินส์น้ำท่วมหนัก หลังไต้ฝุ่น “หม่านหยี่” ถล่ม

มะนิลา 18 พ.ย. – ฟิลิปปินส์เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ หลังจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นหม่านหยี่ (Man-yi) พัดถล่มเกาะลูซอน ช่วงสุดสัปดาห์ เป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ในรอบ 1 เดือน ไต้ฝุ่นขึ้นฝั่งด้วยความเร็วลมสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เกิดคลื่นสูง 7 เมตรบริเวณริมชายฝั่ง ส่งผลกระทบประชากรกว่า 760,000 คน และทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่จังหวัดนูเอวาเอซีฮา ทางตอนกลางของเกาะลูซอน ที่มีน้ำท่วมสูงเฉลี่ยเกือบ 1 เมตร นอกจากนี้ยังทำให้เกิดดินถล่มและสาธารณูปโภคพังเสียหายมากมาย ประชาชนมากกว่า 1 ล้านคนต้องอพยพไปอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ พายุหม่านหยี่เป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในช่วง 1 เดือน ทั่วทั้งประเทศต้องตื่นตัวเพื่อรับมือภัยพิบัติด้วยมาตรการต่าง ๆ.-812(814).-สำนักข่าวไทย

ฆ่าตัดนิ้ว

เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วแม่ยายอัยการ ชิงทรัพย์ล้างหนี้พนัน

หญิงวัย 56 ปี เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์แม่ยายอัยการ ก่อนนำทรัพย์สินไปขายใช้หนี้พนัน ตำรวจคุมตัวไปตามหาทรัพย์สินของกลาง อ้างลงมือก่อเหตุคนเดียว