กรุงเทพฯ 28 เม.ย. – กรมส่งเสริมการเกษตรแจงสิทธิ์รับความช่วยเหลือพืชหลังนา ชวนปลูกพืชใช้น้ำน้อย ตลาดต้องการ รายได้ดีกว่าข้าว
นายสำราญ สาราบรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า จากมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมาเห็นชอบการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกพืชหลังนา ปี 2561/2562 กรมส่งเสริมการเกษตรจึงจัดทำโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกพืชหลังนาปี 2561/2562 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรด้านค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการน้ำ ได้แก่ ค่าสูบน้ำ และการบริหารจัดการศัตรูพืช ซึ่งสูงกว่าฤดูกาลปกติในอัตราไร่ละ 600 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 15 ไร่ หรือไม่เกิน 9,000 บาท เพื่อลดภาระค่าครองชีพ ควบคู่กับสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกร รักษาศักยภาพการผลิตได้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ ต้องไม่ซ้ำซ้อนกับโครงการช่วยเหลืออื่นของภาครัฐที่มีวัตถุประสงค์ใกล้เคียงกันปี 2561/2562 และได้รับการช่วยเหลือแล้ว เช่น โครงการส่งเสริมการปลูกพืชหลากหลายฤดูนาปรัง ปี 2562 โครงการช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบจากภัยแล้งอื่นใด ซึ่งพื้นที่ได้รับความช่วยเหลือแล้วไม่สามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้ ส่วนพื้นที่ที่เหลือจากแปลงเดียวกันที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือสามารถเข้าร่วมได้ โดยสามารถแจ้งยืนยันขอรับสิทธิเข้าร่วมโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกพืชหลังนา ปี 2561/62 ได้ด้วยตนเองที่สำนักงานเกษตรอำเภอที่ตั้งแปลงปลูกและนำเอกสารหลักฐาน ประกอบด้วย บัตรประจำตัวประชาชน และใบมอบอำนาจ หากไม่สามารถมาด้วยตนเอง
สำหรับพืชที่ร่วมโครงการนี้ คือ พืชผักและพืชไร่ ยกเว้นอ้อย สับปะรด พืชปรับปรุงบำรุงดิน พืชปุ๋ยสด ไม้ดอกไม้ประดับ ไม้ผล และไม้ยืนต้น ที่ปลูกหลังทำนาปี ทดแทนการปลูกข้าวนาปรัง และต้องขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร สามารถยื่นขอรับสิทธิ์ช่วยเหลือตามโครงการนี้ได้ตามพื้นที่ปลูกจริงที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย แบ่งเป็น พื้นที่ลุ่มต่ำ 13 ทุ่ง ต้องปลูกตั้งแต่ 1 พ.ย.2561-31 มี.ค.2562 พื้นที่นอกเหนือจากพื้นที่ลุ่มต่ำ 13 ทุ่ง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก ต้องปลูกตั้งแต่ 1 พ.ย.2561-30 เม.ย.2562 พื้นที่ภาคใต้ฝั่งตะวันออก ได้แก่ นครศรีธรรมราช สงขลา พัทลุง ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ต้องปลูกตั้งแต่ 1 มี.ค.-31มิ.ย.2562
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ย้ำว่า ปี 2560/2561 ประเทศไทยปลูกข้าวนาปี-นาปรังได้ผลผลิตรวม 32.63 ล้านตันข้าวเปลือก ซึ่งเกินความต้องการของตลาด แต่พืชหลากหลายอื่น โดยเฉพาะข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ยังไม่พอป้อนตลาด จึงขอเชิญชวนเกษตรกรหันมาปลูกพืชใช้น้ำน้อย ซึ่งมีโครงการรัฐสนับสนุนจะทำให้มีรายได้ดีกว่าข้าว ช่วยป้องกันปัญหาราคาและผลผลิตข้าวล้นตลาด ทั้งนี้ เกษตรกรสามารถขอคำแนะนำช่วยเหลือได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้าน.-สำนักข่าวไทย