กทม. 11 เม.ย.- หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแถลงสรุปผลการเข้าตรวจสอบเหตุเพลิงไหมห้างเซ็นทรัลเวิลด์ มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ
ตัวแทนสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สภาวิศวกร วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย สำนักโยธา กรุงเทพมหานคร และผู้อำนวยการเขตปทุมวัน เปิดแถลงข่าวหลังร่วมกับตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้อาคารบางกอกคอนเวชั่น เซ็นเตอร์ เฟส 2 (ห้างเซ็นทรัลเวิลด์)
นายธีรยุทธ ภูมิภักดิ์ รองผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ระบุต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ห้องบี 2 ซึ่งอยู่ชั้นใต้ดินสุดของอาคาร มีความกว้างประมาณ 80 ตารางเมตร ใช้ติดตั้งระบบดับเพลิงและบำบัดน้ำเสีย ซึ่งเพลิงได้ลุกไหม้ช่วงก่อน 18 นาฬิกาวานนี้(10 เม.ย.) โดยมีวัตถุภายในห้องและซากของสิ่งปฏิกูล เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี
จากนั้นแก๊สและความร้อน ซึ่งนักดับเพลิงเรียกว่ากลุ่มควัน ซึ่งห้องบี 2 ขณะเกิดเหตุมีความร้อนสูงถึง 800 องศา ได้ยกตัวขึ้นไปตามท่อระบายอากาศ ขนาดใหญ่กว่า 30 เซนติเมตร ซึ่งมี 3 ท่อ โดยมีปลายท่ออยู่ที่ชั้น 8 ความร้อนที่ควบแน่นและร้อนจัด ทำให้ส่วนโค้งที่ท่อชั้น 8 ขาด ซึ่งเป็นจุดสังเกตุเห็นไฟลุกไหม้และมีประชาชนกระโดดหนีตายลงมา อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุกว่า 4 ชั่วโมง มีความพยายามค้นหาจุดต้นเพลิง เพื่อดับไฟที่ลุกไหม้ชั้น 8 แต่ไม่พบ จึงใช้กล้องตรวจจับความร้อน สุ่มตรวจไปตามอาคาร จนพบต้นเพลิงที่ห้องบี 2 เมื่อเวลา 22 นาฬิกาวานนี้(10 เม.ย.) จากนั้นได้ใช้โฟมฉีดอัดเข้าเต็มห้องบี 2 เพื่อตัดอากาศ หยุดการลุกไหม้ของเพลิง
สำหรับท่อระบายอากาศดังกล่าวเป็นท่อไฟเบอร์ก๊าซ ระหว่างห้องบี 1 ที่อยู่บนห้องบี 2 จนถึงชั้น 7 ความร้อนจากท่อ แผ่รัศมีไม่มาก อุณภูมิอยู่ที่ประมาณ 70 องศา ชั้นบี 1 –ชั้น 7 จึงไม่ได้รับความเสียหาย
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่เข้าถึงพื้นที่ได้เฉพาะห้องบี 1 ส่วนห้องบี 2 ต้นเพลิง ยังมีความร้อนสูง โฟมและน้ำท่วมระดับสูงเหนือเข่า จึงยังเข้าตรวจจุดที่เป็นต้นเหตุทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ไม่ได้
มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจพบว่าตำแหน่งที่ทำให้เกิดการลุกไหม้ สันนิษฐานว่าเป็นท่อบำบัดน้ำเสียที่อยู่ในห้องบี 2
ด้านศาสตราจารย์ ดร.อมร พิมานมาศ เลขาธิการสภาวิศวกร ระบุ สภาพโครงสร้างอาคาร ที่เกิดเหตุไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากไฟไหม้ในระยะเวลาไม่นาน ดูจากสภาพภายนอกไม่พบผ่นคอนกรีตกระเทาะ เหล็กเส้นด้สานในจึงไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ความเสียหายที่ตรวจสอบมีเพียงห้องบี 2 และชั้น 8 แต่ชั้น 8 ก็เกิดไฟลุกไหม้เฉพาะปลายปล่องตามที่สังเกตุเห็นจากด้านนอก แต่ไม่ลุกลาม มีเพียงคราบเขม่า อย่างไรก็ตามจุดที่มีการกระดดลงมาอยู่ห่างจากบันไดหนีไฟประมาณ 20 เมตร คาดว่าช่วงเกิดเหตุมีกลุ่มควันหนาทึบจึงมองไม่เห็นบันไดหนีไฟ
รศ. สิริวัฒน์ ไชยชนะ เลขาธิการวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ทางห้างเซ็นทรัลฯจะต้องทำแผนเสนอไปยังสำนักงานเขตปทุมวัน และ กรุงทพมหานคร หากจะขอเปิดใช้พื้นที่เกิดไฟไหม้ ขอยืนยันว่าขณะเกิดเหตุสัญญาณเตือนภัยและสปิงเกอร์ฉีดน้ำ ทำงานปกติ สาเหตุที่มีประชาชนบางส่วนบอกว่าไม่ได้ยินสัญญาณเตือนภัย อาจมาจากมีการจัดแบ่งระบบเตือนภัยแยกส่วน ดังนั้น ส่วนที่อยู่ไกลจากจุดเกิดเหตุอาจไม่ได้ยินสัญญาณเตือน
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่อาคารที่เกิดเหตุและพื้นที่โดยรอบรวมทั้งศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ได้อนุญาตให้เจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่เพื่อตรวจสอบทรัพย์สิน ทั้งนี้ในส่วนของบริษัทเซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ได้ตั้งโต๊ะรับลงทะเบียนเจ้าของรถยนต์ที่รถติดค้างภายในลานจอดของอาคารเกิดเหตุ พบว่ามีประมาณ 3,000 คัน โดยเจ้าของรถที่ลงทะเบียนเสร็จสามารถนำรถออกจากพื้นที่ได้ทันที และมีการแจกบัตรล้างรถให้ด้วย ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ท่อระบานอากาศที่เป็นตัวนำกลุ่มควัน จากห้องต้นเพลิงไปยังชั้น 8 มีลักษณะเป็นท่อกลมขนาดใหญ่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ถ่ายภาพไว้ประกอบการตรวจสอบหาสาเหตุเพลิงไหม้ด้วย.-สำนักข่าวไทย