กรุงเทพฯ 27 มี.ค. – การช่วงชิงเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย ในวันนี้ อาจจะยังไม่ใช่ภาพจริง และต้องเจออีกหลายด่าน โดยเฉพาะท้ายที่สุดมีโอกาสเจอปัญหาเรื่องเสถียรภาพ
การเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลของ 2 พรรค 2 ขั้วการเมือง ต่างฝ่ายต่างอ้างคะแนนเสียงที่ได้รับจากการเลือกตั้ง โดย “เพื่อไทย” ใช้จำนวนที่นั่ง ส.ส.ในสภาที่ได้มากกว่า ส่วน “พลังประชารัฐ” อ้างเสียง Popular Vote จากทั่วประเทศที่มากกว่า เป็นความชอบธรรมของฝ่ายตนเอง
นักวิชาการมองว่า ไม่มีฝ่ายใดใช้ความชอบธรรมจากข้ออ้างดังกล่าวได้ เพราะตามหลักประชาธิปไตย พรรคหนึ่งได้ที่นั่งไม่เกินครึ่งในสภา ส่วนอีกพรรคหนึ่งได้คะแนนเสียงจากประชาชนไม่ถึงครึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
ดังนั้น จึงขึ้นอยู่ที่พรรคใดจะชิงรวบรวมเสียงได้มากกว่า เพื่อชี้วัดในสภา ตั้งแต่ด่านแรกในการเลือกประธานสภา และด่านต่อมา คือ นายกรัฐมนตรี ที่มีความเป็นไปได้ว่า ตำแหน่งประธานสภา และนายกฯ จะมาจากคนละขั้วกัน รวมถึงมีโอกาสสูงที่จะเห็นรัฐบาลในภาวะพิเศษ เพราะอาจมีเดดล็อก ทำให้ตั้งรัฐบาลไม่ได้
การชิงเปิดตัวพรรคร่วมรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย ในวันนี้ เป็นเพียงกลยุทธ์กดดันคู่ต่อสู้ เล่นเกมต่อรอง ส่วนภาพรัฐบาลที่แท้จริงนั้นยังไม่ชัดนัก คนในรัฐบาลยอมรับมีผลทางจิตวิทยาเท่านั้น
อีกเดือนกว่า กกต.จึงจะประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ หลังจากนั้นคาดว่าจะเห็นหน้าตาของรัฐบาลชัดขึ้น แต่ไม่ว่าฝ่ายไหนจะมาวิน มีโอกาสเจอปัญหาเสถียรภาพการทำงาน เพราะเสียงรัฐบาลปริ่มน้ำ หรือทั้ง 2 พรรค อาจเจอเดดล็อกทางการเมือง จนในที่สุดอาจนำไปสู่นายกฯ คนกลาง. – สำนักข่าวไทย